Story /Photo: piyawat chitma
ดูเหมือนเล็กแต่จริงๆกว้างเหมือนกัน SUV ที่พร้อมพาทุกคนเดินทางไปกับเทคโนโลยีไฮบริดสุดมันคือความสะดวกสบายสำหรับนักเดินทาง ผมรู้สึกชอบความกว้างในการบรรทุกมสัมภาระ แล้วผมก็ชื่นชมระบบไฮบริดของเขาด้วยเช่นกัน
ALL-NEW YARIS CROSS ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อหน้าสื่อมวลชนและแระชาชนทั่วไป ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาทั้งเรื่องราคา ความคุ้มค่าและการออกแบบ ซึ่งถือว่าโตโยต้าเปิดกลยุทธ์การตลาดได้ตรงเป้าเป็นที่สุด ALL-NEW YARIS CROSS เป็นอีกรุ่นที่มาต่อยอดจากความสำเร็จของ YARIS Hatchback ที่เปิดตัวในประเทศไทยครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2548
ก่อนการแนะนำรถยนต์ ECO Sedan YARIS ATIV ในปี พ.ศ. 2560 Compact car รุ่นนี้ครองใจกลุ่มลูกค้าหนุ่มสาว และขยายฐานลูกค้าโตโยต้าทั่วโลก ทำให้ยอดผลิตสะสมของ YARIS ในประเทศไทยปัจจุบันมีจำนวนมากถึงกว่า 1 ล้านคัน ในขณะที่ยอดจำหน่ายสะสมในประเทศของ YARIS อยู่ที่กว่า 630,000 คัน
ยิ่งไปกว่านั้นโครงการ YARIS และ YARIS ATIV นี้ ยังมีส่วนส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทยกว่า 19,000 ล้านบาท ที่สำคัญมีการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตภายในประเทศถึงกว่า 80%
มาดูแนวทางการออกแบบของ ALL-NEW YARIS CROSS พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Urban” และ “Adventure”อีกทั้งยังเป็นรถ SUV ไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดมาเพื่อช่วยในการบรรลุเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนตามนโยบายของโตโยต้า ที่สำคัญรถรุ่นนี้จะผลิตภายใต้คุณภาพมาตรฐานระดับโลกของโตโยต้า ณ โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา แน่นอนเรื่องคุณภาพคงไม่ต้องพูดถึงเพราะว่ามาตรฐานงานประกอบไทยขึ้นชื่ออยู่แล้วเป็นที่ยอมรับทั่วภูมิภาค
แยกย่อย ALL-NEW YARIS CROSS ในทุกมิติ
-
การออกแบบภายนอกแบบ “SOLID x DYNAMIC” สะท้อนความแข็งแรง ทรงพลัง ตอบสนองไลฟ์สไตล์แอคทิฟ พร้อมลุยไปทุกที่ เสริมความทันสมัยด้วยเส้นสายของตัวรถ สะท้อนภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ พร้อมสีภายนอกให้เลือกถึง 6 สี และตัวเลือกหลังคาดำ เส้นสายดูแข็งแรงกลมกลืนผมว่าออกแบบได้สวยดุต่อเนื่องตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงท้าย
-
การออกแบบภายในแบบ “ROOMY x SPORTY” เน้นภาพรวมห้องโดยสารกว้างขวาง สบายตา โดยใช้หลักเส้นนำสายตาที่เป็นเส้นตรงลากยาวบริเวณคอนโซลด้านหน้า เสริมดีกรีความสปอร์ตด้วยการออกแบบที่นั่งฝั่งผู้ขับขี่ให้มีดีไซน์แบบ “Driver-Oriented Cockpit” เพิ่มความพรีเมียมด้วยการตกแต่งภายในด้วยวัสดุบุนุ่ม วัสดุหุ้มเบาะนั่ง พร้อมเทคโนโลยี “QUOLE MODULE ®” ช่วยลดการสะสมความร้อนบนผิวสัมผัส ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารปรับได้ 14 เฉดสี ปรับความสว่างได้ 4 ระดับ และหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว
-
สมรรถนะการขับขี่ เครื่องยนต์ไฮบริด 2NR-VEX ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน เกียร์อัตโนมัติ e-CVT ให้อัตราเร่งดี ห้องโดยสารเงียบ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อัตราการปล่อย CO2 ต่ำประหยัดน้ำมันที่สุดในคลาสถึง 26.3 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก Eco Sticker)
-
อุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานครบครัน ระบบการควบคุมการทรงตัว Vehicle Stability Control ระบบป้องกันการหมุนฟรีของล้อ Traction Control System ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง กล้องบันทึกด้านหน้า-หลัง สัญญาณเตือนกะระยะหน้า-หลัง 4 จุด และชุดซ่อมยางฉุกเฉิน พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยทันสมัยมากมาย กล้องมองรอบคัน ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSM & RCTA และระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense
-
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมตัวกรองฝุ่น PM 2.5 ลำโพง Pioneer 6 ตำแหน่ง อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกหลายจุด