เบเนลลี่ ประเทศไทย พร้อมก้าวสู่ท็อปทรี
หวังตลาดบิ๊กไบค์พุ่ง ผ่านมาเบนเนลี่ยอดขายโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 8
เบเนลลี่ ประเทศไทย ประกาศ พร้อมเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ Benelli Servizio เพิ่มอีก 11 แห่งให้ครอบคลุม 28 จังหวัดทั่วประเทศ เตรียมเปิดตัวบิ๊กไบค์สายพันธ์อิตาลีลุยกิจกรรมทางการตลาดที่เข้มข้นเข้าถึงลูกค้าครบทุกเซ็กเม้นต์ และเปิดตัว TRK 502X และ Leoncino Trail ตั้งเป้าสู่ท็อปทรีตลาดบิ๊กไบค์ของไทยในปี 2562 หลังยอดขายเติบโต 8 ปีติดต่อกัน ซึ่งยอดขายดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์เบเนลลี่ดีเอ็นเอความแรงจากฝั่งอิตาลีได้สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้ในทุกกลุ่มได้อย่างดี รวมถึงการทำการตลาดแบบต่อเนื่องถือเป็นเรื่องสำคัญต่อการตัดสินใจในการครอบครองรถจักรยานยนต์ในภายใต้แบรนด์ของเบเนลลี่ และในปีนี้ผู้บริหารของเบเนลลี่ได้สร้างความพึ่งพอใจต่อลูกค้าอีกขั้นด้วยการวางแผนรองรับกลุ่มผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มศูนย์บริการและเดินเกมการตลาดอย่างเข้มข้นเพื่อดึงกลุ่มลูกค้าใหม่ให้มาสัมผัส เบเนลลี่มากยิ่งขึ้น
นายธนชาต ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบเนลลี่ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า “หลังจากที่เริ่มรุกตลาดบิ๊กไบค์ในประเทศไทยมาได้กว่า 8 ปี ปัจจุบัน มีโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานทั้งหมด 23 แห่งใน 17 จังหวัด ทั่วประเทศ ภายในปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มทุนพร้อมรุกเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ Benelli Servizio และเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยเพิ่มอีก 11 แห่ง รวมเป็น 34 แห่งให้ครอบคลุม 28 จังหวัดทั่วประเทศในปีนี้ โดยเฉพาะโชว์รูมและศูนย์บริการ Benelli Servizio แครายแห่งนี้ เราใช้งบลงทุนกว่า 160 ล้านบาท มีพื้นที่บริการกว่า 1,600 ตรม.”
แล้วในโชว์รูมและศูนย์บริการทุกแห่งของเบเนลลี่นั้นจะต้องไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมดเพื่อให้การบริการอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน สำหรับแนวคิดของโชว์รูมและศูนย์บริการ Benelli Servizio คือ การเน้นแกนหลักมุ่งไปที่ไบค์เกอร์เป็นหลักโดยใช้แกนของ 3C เป็นสำคัญ
“โดย C แรก คือ Culture & Community เน้นไปที่การถ่ายทอดจิตวิญญาณ วัฒนธรรมและสังคมของ Benelli Biker เพราะเบนเนลลี่เชื่อว่าบิ๊กไบค์ไม่ใช่แค่พาหนะ แต่ยังหมายถึงส่วนหนึ่งของสังคมที่เชื่อมโยงกันยังอบอุ่น ดังจะเห็นว่าการออกค่ายอาสาของเราแต่ละครั้งจะมีผู้ใช้จากทั่วประเทศมาร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและร่วมกันทำประโยชน์เพื่อสังคมด้วยความเต็มใจ
ส่วน C ที่สอง คือ Customization & Costume คือ การใส่ใจในรายละเอียดความต้องการของลูกค้าทั้งส่วนของตัวรถและผู้ขับขี่ เราจะเห็นว่าคนก็ปรับตัวเข้าหารถเพื่อให้เกิดความลงตัว ส่วนรถก็ปรับตัวเข้าหาคนดังจะเห็นว่าเรามีของตกแต่งหลากหลาย ซึ่งเราเองยังใส่ใจมากไปอีกขั้นโดยเราจะมอบหมวกกันน็อคเบนเนลลี่แท้ให้กับผู้ที่ซื้อ ทั้ง สปอร์ต,แนกเก็ต และทัวร์ริ่ง ส่วนตัวรถนั้นเรามั่นใจว่าสิ่งที่เรามอบให้ผู้ใช้นั้นเกินความคาดหวังของผู้ใช้แน่นอนทั้งสมรรถนะและดีไซน์
และ C สุดท้ายที่ Benelli Servizio ทุกแห่งให้ความสำคัญ คือ Customer Satisfaction การให้ความพึงพอใจของลูกค้าสูงสุดเป็นที่ตั้ง โดยเน้นให้ลูกค้าจะได้รับการบริการมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ทุกวันนี้เราเชื่อว่าการซื้อบิ๊กไบค์คือการออมแบบมีดอกเบี้ยแต่คุณก็จะได้อรรถรสหลังจากสามปีแล้วก็ยังสามารถเทิร์นเป็นรถรุ่นใหม่ๆได้ ดังนั้นเราจึงเน้นเรื่องฟรีเซอร์วิสและดูแลให้ใช้งานได้นานที่สุดเพื่อ ให้ผู้ใช้ได้เครดิตในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์บิ๊กไบค์เบเนลลี่ได้ดีที่สุด” ผู้บริหารเบเนลลี่กล่าว
ขณะเดียวกันเมื่อมองถึงตลาดรวมของเบเนลลี่ที่ผ่านมานั้น เราจะเห็นว่าตลาดบิ๊กไบค์เติบโตอย่างต่อเนื่อง นั่นถือเป็นปัจจัยบวก และเหตุผลดังกล่าวนี้ผู้บริหารของเบเนลลี่จึงมีความมั่นใจถึงทิศทางการเติบโตของการตลาด นายธนชาตเปิดเผยว่า
“เมื่อเปรียบเทียบยอดขายครึ่งปี (มกราคม – มิถุนายน) Benelli มียอดขายเพิ่มขึ้น 26.2% ในกลุ่มรถบิ๊กไบค์ 300 ซีซี.ขึ้นไป (821 คันในปี 2560 และ 1,038 คันในปี 2561) และสำหรับหกเดือนแรกของปีนี้ เรามียอดจดทะเบียนทุกรุ่นกว่า 2,000 คัน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากยอดขายรุ่น 500 ซีซี. เป็นแกนหลักที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากตลาดบิ๊กไบค์ รวมทั้งการเป็นแบรนด์แรกในตลาดรถบิ๊กไบค์ ที่ริเริ่มระบบการรับประกันเครื่องยนต์ 3 ปีโดยไม่จำกัดระยะทาง เรามีแคมเปญการตลาด Exclusive Trip สำหรับรถรุ่น TRK 502X และ Leoncino Trail แก่ลูกค้าที่ออกรถกับตัวแทนจำหน่าย และกิจกรรม TRK 2,000 ไมล์ เพื่อยืนยันสมรรถนะของรถ TRK 502 ในทุกสภาพภูมิประเทศตลอดระยะทาง 3,200 กม. ในทริปซีซั่นแรก ออกเดินทาง 6 วัน 20 จังหวัด และกำลังจะมีซีซั่น 2 ช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ กับระยะทางกว่า 4,000 กม. ผ่าน 18 จังหวัดสู่ภาคใต้”
นายธนชาต กล่าวเพิ่มเติมว่า “กลยุทธ์การตลาดในครึ่งปีหลัง จะเน้นการนำรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ซึ่งมีความหลากหลายครบทุกเซ็กเม้นต์ ส่วนการสื่อสารการตลาดจะใช้กลยุทธ์ F.R.A.P.I. คือ Familiar สร้างความคุ้นเคย จากตำนาน Benelli ที่ยาวนานกว่า 108 ปี Recognize การสร้างความจดจำผ่านรุ่น 300 ซีซี. 2 สูบ parallel-twin เป็น ตัวธงรบหลักตั้งแต่ปี 2557 Accept สร้างการยอมรับโดยใช้รุ่น 500 ซีซี. 2 สูบที่เน้นดีไซน์และสเปคที่เหนือกว่าคู่แข่งใน รุ่นเดียวกัน Prefer และ Insist เป็นสเต็ปที่จะเกิดขึ้นในปี 2562-2563 สู่นิยาม Benelli บิ๊กไบค์แกร่งดีไซน์อิตาลี ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในราคาที่จับต้องได้ ด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่า พร้อมจำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการ Benelli Servizio ทั่วประเทศที่รองรับการบริการหลังการขายได้ครอบคลุมทุกพื้นที่”
“เป็นที่ทราบกันดีว่าการแข่งขันในปัจจุบันของตลาดรถมอเตอร์ไซค์สูงขึ้นจากคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการจากผู้บริโภคสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการใช้งานของรถบิ๊กไบค์แต่ละประเภท เบเนลลี่ ประเทศไทย มั่นใจว่าจะสามารถก้าว สู่ตำแหน่งผู้นำในตลาดได้อย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งได้เปิดตัวรุ่นใหม่สู่ตลาดเดือนนี้ ได้แก่ TRK 502X สุดยอดรถจักรยานยนต์แห่งการผจญภัยที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณเป็นผู้กำหนดในทุกเส้นทาง ด้วยการออกแบบอันดุดัน และ Leoncino Trail เนกเก็ตสายลุยไปได้ทุกที่ทุกเส้นทางแต่แฝงไว้ด้วยความทันสมัย
ทั้งนี้ การเพิ่มไลน์อัพสินค้าจะทำให้ครอบคลุมกลุ่มรถสไตล์ Naked, Sport, Touring, Adventure, Enduro, Classic และ Cruiser เมื่อลูกค้ารู้จักและได้สัมผัส Benelli จะเป็นแฟนพันธุ์แท้ที่เหนียวแน่น การขยายช่องทางจำหน่ายและศูนย์บริการ รวมถึงบริการหลังการขาย โดยเฉพาะการเป็นแบรนด์แรกในตลาดรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่กล้ามอบระยะรับประกันเครื่องยนต์ 3 ปีโดยไม่จำกัดระยะทาง โดยเราตั้งเป้าว่าจะสามารถทำยอดขายบิ๊กไบค์พิกัด 250 ซีซี.ขึ้นไป ให้ได้มากกว่า 10,000 คันในปี 2562 และก้าวสู่ท็อปทรีได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้วเราก็มั่นใจว่าต้องทำได้” นายธนชาต ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบเนลลี่ ประเทศไทย จำกัดกล่าว….
