กรุงเทพฯ – 24 มีนาคม 2568 – บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจําหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD และ DENZA อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ เข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ 2025 อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการนำทัพยนตรกรรมกว่า 30 คัน มาให้ทุกท่านสัมผัส บนพื้นที่จัดแสดงรวมใหญ่สุดในงาน ละลานตาไปกับรถยนต์ที่นำมาจัดแสดงที่งานนี้เป็นครั้งแรก
ครอบคลุมทั้งยานยนต์จากอนาคต และรุ่นล่าสุดที่พร้อมให้เป็นเจ้าของ ทั้งยังมีทัพยานยนต์เจ้าของรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมอีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีการจัดงาน BYD Lab คู่ขนานกับงานมอเตอร์โชว์ 2025 ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 ให้ทุกท่านได้ทำความรู้จักกับนวัตกรรมของ BYD ให้ดีกว่าที่เคย ผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบรวมถึงทดลองขับ พร้อมรับของที่ระลึกฟรี
นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “ในฐานะที่เรเว่ที่เป็นหนึ่งในผู้นำ ของวงการยานยนต์กลุ่มพลังงานใหม่ เราจึงนำนวัตกรรมยานยนต์ BYD และ DENZA กว่า 10 รุ่น ทั้งรุ่นปัจจุบัน, 4 รุ่นล่าสุด ที่ไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อนในไทย และ 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน มาจัดแสดงที่นี่
พร้อมให้ทุกท่านได้สัมผัสบนพื้นที่จัดแสดง รวมกันมากกว่า 3,000 ตร.ม. เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในงาน ไม่เพียงแค่นั้น เรายังตอบรับเสียงเรียกร้อง ด้วยการเปิดรับจอง BYD Shark 6 DMO ที่ทุกคนรอคอย เป็นครั้งแรก โดยเรเว่มั่นใจว่ารถยนต์ทุกคันในบูธของเรเว่ จะสร้างสีสันให้กับงานและความตื่นเต้นให้กับผู้เข้าชมงาน ทั้งยังเป็นอีกส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนอุตสาหรรมรถยนต์ และตลาดรถยนต์ใหม่ของไทย”
นางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวเสริมว่า “นอกจากทัพยานยนต์ BYD และ DENZA ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV และ PHEV อย่าง DM-i Super Hybrid ที่เรเว่นำมาให้สัมผัสและทดลองขับแล้ว ยังมีอีกงานที่พลาดไม่ได้กับ BYD Lab ซึ่งจัดพร้อมกับงาน Motor Show ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ศึกษานวัตกรรมล่าสุด BYD ผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบซึ่งมีด้วยกัน 5 ส่วน
รวมถึงการทดลองขับในสถานีจำลองต่างๆ พร้อมไฮไลท์เป็นโชว์การขับขี่ YangWang U8 ในระดับน้ำลึก 1.5 เมตร ครั้งแรกของไทย งาน BYD Lab เปิดให้ทุกท่านเข้าชมฟรีที่ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 ในงานยังมีของที่ระลึกให้ทุกท่านที่ร่วมกิจกรรมครบทุกสถานี และมีสิทธิ์พิเศษอีกขั้นให้กับลูกค้าเรเว่” ทัพยานยนต์แห่งอนาคตจาก BYD และ DENZA ที่ไม่เคยจัดแสดงในไทยมาก่อน
BYD Seal 5 DM-i ครั้งแรกของ Eco Sedan Plug-In hybrid ในประเทศไทย ภายนอกโดดเด่นด้วย กระจังหน้าไร้กรอบ และไฟหน้าแบบ Skylight LED ภายในมีห้องโดยสารอัจฉริยะ BYD Intelligent Cockpit ด้วยมาตรวัด LCD ขนาด 8.8 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ใหญ่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน ทั้งยังกว้างขวางด้วยระยะฐานล้อยาวสุด ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง DM-i Super Hybrid ที่ขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ด้วยการผสานเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าและ Blade Battery โดยวิ่งใน EV Mode ได้ไกลสุด 115 กม. (NEDC)
DENZA FORMULA BAO 8 รถยนต์ OFF-ROAD D-SUV ที่ผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่แบบ Off-Road เข้ากับความหรูหรา พร้อมนำแนวคิด ‘กุญแจแห่งการเปิดประตูเข้าสู่โลกแห่งอนาคต’ มาใช้ในการออกแบบทั้งภายนอกและภายใน พร้อมขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV แบบ DMO (Dual Mode Off-road) ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังรวมกัน 550 กิโลวัตต์ โครงสร้างเป็นแบบ CTC หรือ Cell to Chassis ติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ภายในโครงสร้าง Chassis Frame เพิ่มการปกป้องให้แบตเตอรี่ และแกร่งกว่ารถยนต์ที่มีพื้นฐานแบบ Body on Chassis ทั่วไป
BYD ATTO 2 รถยนต์ไฟฟ้า Compact B-SUV ภาพลักษณ์สดใส ด้วยดีไซน์ในกลุ่ม Dynasty Series มีขนาดกระทัดรัด เหมาะกับการใช้งานในเมืองอย่างคล่องตัว ทั้งยังมีไฟท้ายเสมือนตัวเลข 8 สื่อถึงโชคลาภไม่มีที่สิ้นสุด ภายในเป็นแบบ BYD Intelligent Cockpit ผสานความเป็นสมมาตรและเรียบง่าย จึงสะดวกสบายและใช้งานง่าย
มาพร้อมเรือนไมล์ LCD ขนาด 8.8 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสมัลติมีเดียขนาด 12.8 นิ้ว ด้านระบบส่งกำลังเป็นแบบอัจฉริยะ 8 in 1 พร้อมติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 45.12 kWh แบบ Cell to Body ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 325 นิวตันเมตร ขับขี่ได้ไกลสุดเป็นระยะทาง 410 กิโลเมตร (NEDC) ทั้งยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ครบครัน ทำงานร่วมกับกล้องและเซนเซอร์รอบคันอย่างแม่นยำ
DENZA N9 DM-i รถยนต์ SUV 6 ที่นั่ง ที่เต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและความหรูหรา สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม e3 อัจฉริยะ พร้อมเทคโนโลยี PHEV แบบ DM-i ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 3 ตัว กำลังรวมสูงสุด 680 กิโลวัตต์ ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูง ขนาด 2.0T ลิตร เสริมด้วย BYD Blade Battery ขนาดใหญ่ 47 kWh วิ่งด้วยไฟฟ้าได้ไกลสุด 200 กิโลเมตร (CLTC) โครงสร้างแข็งแกร่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี CTB ช่วงล่างเป็นแบบอัจฉริยะ DiSus-A มีโช๊คอัพแก๊สปรับระดับได้ตามสภาพถนนเบื้องหน้า
ภายในเต็มเปี่ยมด้วยวัสดุที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน ทั้งยังมากด้วยเทคโนโลยีกับ หน้าจอเรือนไมล์ความคมชัดสูงขนาด 13.2 นิ้ว พร้อมระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (AR-HUD) ขนาด 50 นิ้ว ส่วนหน้าจอสัมผัสคู่ มีขนาด 17.3 นิ้ว และ 13.2 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า เพิ่มความสุนทรียภาพไปกับเครื่องเสียงพรีเมียม DEVIALET Stereo System ครั้งแรกของไทย BYD Sealion 6 ForceEdge ที่เพียบพร้อมกว่าเคย
แตกต่างจากที่เคยไปกับ BYD Sealion 6 ForceEdge โดยมาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งเฉพาะรุ่น โดดเด่นไม่เหมือนใคร เพิ่มความสปอร์ตพรีเมี่ยมจากทุกมุมมอง ด้วยชุดแต่งรอบคันรวมชายกันชนหน้าหลัง (Front & Rear Under Garnish) สีดำเงา Piano Black พร้อมเติมเต็มความพรีเมี่ยมจากบันไดข้าง สิ้นสุดการรอคอย เรเว่พร้อมเปิดรับจอง BYD Shark 6 DMO