วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ประกาศการเติบโตของยอดจำหน่ายอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่  4 พร้อมความสำเร็จยอดจำหน่ายรถไฟฟ้าที่ทำสถิติสูงที่สุด คิดเป็นสัดส่วนถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมในปี 2024 เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 24 เปอร์เซ็นต์

พร้อมกันนี้ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ยังได้ประกาศเป้าหมายการดำเนินธุรกิจสำหรับปี 2025 และอนาคต โดยมุ่งเน้นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งในกลุ่มรถไฟฟ้า และปลั๊กอินไฮบริด

เสริมความพึงพอใจ และบริหารประสบการณ์ลูกค้าด้วยงานขายและการบริการที่ครอบคลุม พร้อมเพิ่มมูลค่าในการเป็นเจ้าของรถวอลโว่ด้วยโครงการใหม่ ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องตลอดช่วงอายุการเป็นเจ้าของรถวอลโว่

ในปี 2024 ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์รถไฟฟ้า fully electric มีสัดส่วนสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวม โดยเป็นสัดส่วนสูงสุดที่เคยมีมาตั้งแต่ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เริ่มจำหน่ายรถไฟฟ้า fully electric ในปี 2022

(กลาง) คุณคริส เวลส์ – กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด (ขวา) คุณภัทรพงษ์ อชะปาละศิริ – ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด (ซ้าย) คุณถนอมศักดิ์ สันทนาประสิทธิ์ – ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและบริหารประสบการณ์ลูกค้า บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด

ซึ่งความนิยมของ Volvo EX30 ส่งผลให้รถรุ่นดังกล่าวมีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วย Volvo EC40 และ EX40 ที่มียอดขายที่ 20 เปอร์เซ็นต์ เท่า ๆ กัน

สำหรับรถปลั๊กอินไฮบริดนั้นมีสัดส่วนยอดจำหน่ายรวมที่ 20 เปอร์เซ็นต์โดยมีรถสไตล์เอสยูวี รุ่นยอดนิยมอย่าง Volvo XC60 และ ที่ยังคงสร้างความสนใจให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

Volvo EX30 Cloud Blue

นอกจากการเติบโตของรถใหม่ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ยังได้ประกาศการเติบโตของรถวอลโว่มือสองไมล์น้อยคุณภาพดี อย่าง Volvo Selekt Approved Used Cars ว่ามียอดจำหน่ายที่โตขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปี 2023

คุณคริส เวลส์, กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย และ ประเทศมาเลเชีย กล่าวว่า  เรารู้สึกภูมิใจกับผลลัพธ์ของปีที่ผ่านมาเนื่องจากเป็นปีที่ท้าทายอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งการเติบโตที่ต่อเนื่องก็สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์วอลโว่ และตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

และแม้ว่าความท้าทายจะยังเกิดขึ้นต่อเนื่องมาในปี 2025 วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการ ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับแบรนด์ของเรา

โดยเราตั้งเป้าหมายการเติบโตของปี 2025 ที่ 5 เปอร์เซ็นต์ เราเชื่อว่าด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เรานำเสนอทั้งในส่วนของรถไฟฟ้า fully electric และรถปลั๊กอินไฮบริด จะยังคงได้รับความสนใจจากผู้บริโภคต่อเนื่องไปในอนาคต   

 

อีกทั้งความพรีเมียมของแบรนด์ที่ทำให้ วอลโว่ คาร์ แตกต่าง และเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

สานต่อความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมในปี 2025

ในปี 2025 วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้วางเป้าหมายเพื่อสานต่อความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถไฟฟ้าในอนาคต

Volvo EX90 Vapour Grey Extrior

เริ่มในไตรมาสแรกของปี 2025 วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้วางแผนการส่งมอบรถไฟฟ้าขนาด 7 ที่นั่ง สไตล์เอสยูวี รุ่นเรือธงอย่าง Volvo EX90 ให้แก่ลูกค้า

ซึ่ง EX90 นำเสนอนิยามบทใหม่ของเทคโนโลยีและมาตรฐานความปลอดภัยของ วอลโว่ คาร์ โดยเป็นรถรุ่นแรกที่ใช้ชิปในการประมวลผล ผ่านการทำงานของซอฟ์แวร์เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้ความปลอดภัย, การเชื่อมต่อ และข้อมูล บนแพลตฟอร์มที่สามารถอัพเกรดเพื่อรองรับการใช้งานในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง

Volvo EX90 Sand Dune Exterior

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ทั้งในกลุ่มรถไฟฟ้า fully electric รวมถึงรถกลุ่มปลั๊กอินไฮบริด เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นบริษัทผู้จำหน่ายรถไฟฟ้าเท่านั้นในอนาคต

ในแง่ของการบริการเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า บริษัทฯ ได้วางแผนในการเปิดโชว์รูม และศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานครบวงจร Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) แห่งใหม่

พร้อมวางแผนการขยายบริการ Volvo Mobile Service ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับความนิยมของลูกค้าที่สนใจรับบริการเป็นจำนวนมากเนื่องจากเป็นบริการที่มีความสะดวกสบาย

โดยลูกค้าสามารถรับบริการได้จากที่บ้านหรือสถานที่ที่นัดหมาย ประหยัดเวลาการเดินทางไปที่ศูนย์บริการ  พร้อมกันนี้ยังได้รับความอุ่นใจว่าช่างที่มาให้บริการได้รับการอบรมตามมาตรฐานของวอลโว่ คาร์

เนื่องด้วยความเข้าใจในสภาวะของตลาด และเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคกำลังเผชิญ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทยยังได้วางแผนจัดตั้งศูนย์ซ่อมและรีไซเคิลแบตเตอรี่ ร่วมถึงเปิดบริการ SMART Repair Service ซึ่งเป็นการบริการซ่อมความเสียหายขนาดเล็ก และขนาดกลาง

ที่เกิดขึ้นกับตัวรถด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของวอลโว่ แทนที่การเปลี่ยนอุปกรณ์ยกชิ้น ซึ่งการซ่อมดังกล่าวใช้เวลาไม่นาน และมีราคาประหยัด จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องตลอดช่วงอายุการใช้รถ เพิ่มมูลค่าในการเป็นเจ้าของซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ต้องการนำเสนอให้แก่ผู้เป็นเจ้าของรถวอลโว่ทุกคน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่