มาดูเรื่องราวความเป็นมาของ ฟอร์ด เรนเจอร์ กว่าจะมาถึงวันนี้เขาเริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ บางคนอาจยังไม่ทราบ กว่าจะถึงรุ่นล่าสุด ชื่อของฟอร์ด เรนเจอร์ ได้เปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ. 2525 โดยมีหัวใจสำคัญคือการเป็นรถที่แข็งแกร่งตามแบบฉบับของฟอร์ดในราคาที่เข้าถึงได้ พร้อมสมรรถนะที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า หากนับจากรุ่นแรกผ่านมาถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่า 40 ปี ที่ฟอร์ด เรนเจอร์ ได้รับความนิยมและครองรางวัลระดับโลกมาแล้วมากมาย โดยปัจจุบัน ฟอร์ด เรนเจอร์ มีจำหน่ายในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก

ประวัติศาสตร์รถบรรทุกของฟอร์ด

ฟอร์ดผลิตรถบรรทุกมานานกว่า 100 ปี โดยเริ่มจากการเปิดตัวรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กในช่วงต้นปี พ.ศ. 2448 และเข้าสู่ธุรกิจรถบรรทุกอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2460 ด้วยรถโมเดล ทีที (Model TT) ที่มีโครงรถและเพลาล้อหลังที่แข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อเทียบกับรถโมเดล ที (Model T) จึงทำให้รองรับน้ำหนักได้ถึง 1 ตัน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการผลิตรถยนต์ที่น่าเชื่อถือซึ่งได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อการใช้งานหนัก ตามแนวคิด ‘Built stronger to last longer’

วิวัฒนาการของรถกระบะ

ในกลางปี พ.ศ. 2476 ฮูเบิร์ท เฟรนช์ กรรมการผู้จัดการของฟอร์ด ออสเตรเลีย ในขณะนั้น ได้รับจดหมายจากชาวนาสามีภรรยาคู่หนึ่งว่าตนไม่มีกำลังพอที่จะซื้อทั้งรถเพื่อใช้โดยสารและรถสำหรับบรรทุกของได้ จึงอยากได้รถคันเดียวที่ทำได้ทั้งหมด เขาจึงได้ให้นักออกแบบนามว่า ลูอิส แบนด์ท ออกแบบรถโดยสารที่บรรทุกสัมภาระหนักได้ด้วย รถกระบะฟอร์ดจึงถือกำเนิดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

การออกแบบของแบนด์ทแตกต่างจากรถกระบะทั่วไปในสมัยนั้นที่ตัวแค็บเป็นไม้ กระบะท้ายเป็นเหล็ก โดยเขาสร้างรถเป็นแบบคูเป้ (2 ที่นั่ง ตัวแค็บทำจากเหล็ก หน้าต่างทำจากกระจก) ติดตั้งกระบะท้ายทำจากเหล็ก และออกแบบให้ตัวแค็บและกระบะท้ายมีความต่อเนื่องเป็นคันเดียวกัน เพิ่มพื้นที่บรรทุกมากขึ้น รถคันแรกได้ออกจากสายการผลิตในปี พ.ศ. 2477 และจำหน่ายไปกว่า 22,000 คันในระหว่างปี พ.ศ. 2483 – 2497

รถกระบะฟอร์ดรุ่นต้นแบบที่ออกแบบโดยแบนด์ท กลายเป็นคอนเซ็ปต์ที่ส่งต่อไปผลิตทั่วโลก นอกจากนี้ ยังเป็นรากฐานสำคัญให้รถตระกูลฟอลคอน ถึง 7 รุ่น ตลอดช่วงปี พ.ศ. 2504 – 2559 รถตระกูลแบนแทมในประเทศแอฟริกาใต้ รวมถึงในประเทศสหรัฐอเมริกายังมีการนำการออกแบบคอนเซ็ปต์นี้ไปใช้ในรถตระกูลมาเวอริคอีกด้วย คำว่า ‘ยูท’ (ute) ที่แบนด์ทใช้เรียกนวัตกรรมของเขายังมีอิทธิพลให้ผู้คนในออสเตรเลียนำไปใช้ในความหมายเดียวกับรถกระบะ (Pickup) นับแต่นั้นเป็นต้นมา

กำเนิดฟอร์ด เรนเจอร์ ในสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2525)

ก่อนหน้านี้ เรนเจอร์เคยเป็นหนึ่งในรถรุ่นย่อยของฟอร์ด เอฟ ซีรี่ส์ ในปี พ.ศ. 2508 และฟอร์ด บรองโก ในปี พ.ศ. 2515 มาก่อน ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2525 ฟอร์ด เรนเจอร์ คันแรกเปิดตัวสู่สาธารณะที่งานซีราคิวส์ ออโตโชว์ โดยนับเป็นรุ่นปี 1983 แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่มีพื้นที่รองรับโดยสารได้ถึง 3 คนและรับน้ำหนักบรรทุกได้ 1,600 ปอนด์ (ประมาณ 725 กก.) พร้อมส่งมอบขุมพลังระดับตำนานของฟอร์ดและการประหยัดน้ำมัน โดยเพียง 5 วันให้หลัง รถคันแรกได้ออกจากสายการผลิตที่เมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนตักกี้

ฟอร์ด เรนเจอร์กลายเป็นรถกระบะขนาดเล็กที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 10 ปีติดต่อกัน  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 – 2539 นอกจากนี้ ยังสร้างชื่อเสียงได้อย่างถล่มทลายในการแข่งขันออฟโรด SCORE ถึงสี่ฤดูกาลติดต่อกันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 – 2530 รวมถึงสร้างความสำเร็จให้กับทีม Rough Riders ของฟอร์ดในปี พ.ศ. 2534 – 2538

การเติบโตระดับโลกของฟอร์ด เรนเจอร์ (พ.ศ. 2541)

ตัวอักษร Ranger ปรากฏครั้งแรกบนรถกระบะที่จำหน่ายในยุโรปและเอเชียในปี พ.ศ. 2541 โดยมาแทนที่รุ่นคูริเออร์ที่เป็นหน้าเป็นตาของรถกระบะฟอร์ดในภูมิภาคนี้มากว่า 30 ปี เรนเจอร์เปิดตัวด้วยกระบะแค็บ 3 รูปแบบ ตัวเลือกฐานล้อ 2 แบบ และมาในเครื่องยนต์และแรงบิดที่ทรงพลังให้เลือก ฟอร์ด เรนเจอร์ ยังเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นแรกๆ ที่ผลิตขึ้นในโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) จังหวัดระยอง

ถือกำเนิดฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค (พ.ศ. 2548)

‘ไวลด์แทรค’ เป็นรุ่นย่อยของรถกระบะตระกูลฟอร์ด เรนเจอร์ ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการใช้รถทั้งสำหรับทำงาน และพักผ่อน ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค สร้างมาเพื่อสะท้อนความแกร่ง ด้วยล้อที่ใหญ่ขึ้น สปอร์ตบาร์อันเป็นเอกลักษณ์ ราวกระบะท้าย ราวหลังคา และบันไดข้าง ซึ่งยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการออกแบบไวลด์แทรคมาจนถึงทุกวันนี้

ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันที่ 2 (พ.ศ. 2549)

ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันที่ 2 ได้สร้างมาตรฐานใหม่ทั้งด้านประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือด้วยการออกแบบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลคอมเมนเรล 2 แบบ ฟอร์ดจึงยุติการทำตลาดโมเดลคูริเออร์ในออสเตรเลียและเอเชีย และหันมาปรับโฉมฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ให้โดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีกในปี พ.ศ. 2552 ด้วยการออกแบบกระจังหน้าลายสามแถบแบบใหม่ และส่งรุ่นย่อยไวลด์แทรคไปจำหน่ายในประเทศอื่นๆ มากขึ้น รวมถึงประเทศไทย

ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันที่ 3 (พ.ศ. 2554)

ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันที่ 3 ที่พัฒนาในประเทศออสเตรเลีย เปิดตัวในงานแสดงรถยนต์นานาชาติออสเตรเลีย 2010 ที่ซิดนีย์ โดยรวมคุณสมบัติของรถกระบะขนาดกลางที่ใช้กันทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน และนับว่าเป็นกระบะขนาดกลางที่ทรงพลังที่สุดที่ฟอร์ดเคยผลิตมา โดยมีโรงงานผลิตอยู่ที่จังหวัดระยอง ประเทศไทย และเมืองซิลเวอร์ตัน ประเทศแอฟริกาใต้ โดยจัดจำหน่ายไปยังกว่า 180 ประเทศ

การปรับโฉมของฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันที่ 3 (พ.ศ. 2558)

ฟอร์ดได้ปรับโฉมเรนเจอร์อีกครั้ง โดยมีจุดเด่นที่กระจังหน้าแถบเดียวทรงรีที่แทนกระจังหน้าสามแถบทรงเหลี่ยม ภายในออกแบบใหม่ด้วยแผงหน้าปัดที่ดุดันขึ้นโดยมีหน้าจอ SYNC ติดตั้งไว้ตรงกลาง อีกทั้งฟอร์ดยังเพิ่มฟีเจอร์ที่ไม่เคยมีในรถรุ่นอื่นในเซ็กเมนต์ เช่น ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ และระบบช่วยจอดทั้งหน้าและหลัง

ฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม)

ฟอร์ดเปิดโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) ในปี พ.ศ. 2555 และเริ่มผลิตฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดทั่วโลกในเวลาต่อมา

การเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ (พ.ศ. 2561)

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถกระบะสมรรถนะสูงดีเอ็นเอฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ เผยโฉมเป็นครั้งแรกโดยใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อ และระบบกันสะเทือนด้วยโช้คอัพ FOX ที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษเพื่อการใช้งานแบบออฟโรด สร้างความคึกคักให้กับทั้งลูกค้าและสื่อมวลชน

ฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ (พ.ศ. 2565)

ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันที่ 4 ได้เผยโฉมพร้อมกันทั่วโลกเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ในรูปลักษณ์ใหม่ทั้งหมด ภายใต้แนวทางการออกแบบที่มุ่งเน้นผู้ใช้งานเป็นหลัก ก้าวข้ามขีดจำกัดของการออกแบบภายนอกแบบเดิมๆ ด้วยกระจังหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ไฟหน้าใหม่รูปตัว C และบันไดเหยียบข้างกระบะท้าย โดยมาเปิดตัวที่ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2565 พร้อมกับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันที่ 2 ซึ่งมีการออกแบบกระจังหน้าและไฟหน้าเหมือนกับเรนเจอร์ พร้อมนำเสนอเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร วี 6 และโช้คอัพ FOX แบบไลฟ์ วาล์ว ยกระดับสมรรถนะด้านออฟโรดให้เหนือมาตรฐานสำหรับผู้หลงใหลการขับขี่ออฟโรดตัวจริง

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คว้าชัยชนะในการแข่งขันบาฮา 1000 (พ.ศ. 2565)

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ได้สร้างผลงานแทบไร้ที่ติในการแข่งขันออฟโรดครอสคันทรีสุดโหดSCORE-International Baja 1000 ที่จัดขึ้นที่ประเทศเม็กซิโกไปจนถึงเมืองริเวอร์ไซด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย รถกระบะสมรรถนะสูงคันนี้ถูกปรับแต่งสำหรับการแข่งขันในออสเตรเลียโดยทีมKelly Racing รวมถึงทดสอบและปรับปรุงโดยทีม Lovell Racing และ Huseman Engineering ในสหรัฐอเมริกา

เรนเจอร์ยังคงพัฒนาต่อไป (พ.ศ. 2566)

ฟอร์ดยังคงนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ในเรนเจอร์อย่างต่อเนื่องทั่วโลกรวมถึงในไทย โดยการสร้างปรากฏการณ์ขึ้นอีกครั้งด้วยฟอร์ด เรนเจอร์ สตอร์มแทร็ค นำเสนอนวัตกรรมที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในเรนเจอร์อย่างราวหลังคาและสปอร์ตบาร์แบบปรับได้ เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ใหม่ๆ ในรถกระบะได้สนุกยิ่งขึ้น

เรนเจอร์ ไวลด์แทรค พร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร วี 6 (พ.ศ. 2567)

ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 ฟอร์ดยกระดับมาตรฐานเซ็กเมนต์รถกระบะอีกครั้งในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค วี 6 รถกระบะรุ่นย่อยใหม่ล่าสุดในตระกูลฟอร์ด เรนเจอร์ แกร่งไปอีกขั้นด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร ที่ได้รับความนิยมมายาวนานในต่างประเทศ มีความเสถียรและทนทาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำลังและแรงบิดมากขึ้นสำหรับการลากจูงและการขับขี่แบบออฟโรด

หมายเหตุ: ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการออกแบบ และพัฒนาในประเทศออสเตรเลีย ผลิตที่โรงงานฟอร์ด 2 แห่งในประเทศไทย ได้แก่ โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) รวมถึงในโรงงานที่เมืองซิลเวอร์ตัน พริทอเรีย (ฟอร์ด แอฟริกาใต้) และจัดจำหน่ายไปยังกว่า 180 ประเทศ

ทั้งหมดคือความเป็นมาของฟอร์ดเรนเจอร์ ที่ได้ชื่อว่าแกร่งตั้งแต่เกิด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่