วินฟาสต์กล้าที่จะฉีกกฎในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าแบบเดิม ๆ ด้วยโปรแกรมแบตเตอรี่แบบเช่า เพื่อช่วยลดความกังวลของผู้ใช้รถในเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ซึ่งโมเดลล้ำสมัยนี้จะมาปฏิวัติแนวทางการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคในอนาคตอันใกล้

ภูมิภาคอาเซียนนอกจากจะเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ยังมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางของการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย  วินฟาสต์กำลังรุกสู่ตลาดภูมิภาคนี้อย่างจริงจังด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ที่มุ่งเน้นบุกเบิกโปรแกรมแบตเตอรี่แบบเช่า ด้วยการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีแบตเตอรี่

เนื่องจากแบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบที่มีราคาแพงที่สุดในรถยนต์ไฟฟ้า โปรแกรมแบตเตอรี่แบบเช่าจะช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อรถและจ่ายค่าเช่าแบตเตอรี่รายเดือนแยกต่างหาก โมเดลธุรกิจใหม่นี้จึงเข้ามารับมือกับความท้าทายในแวดวงรถยนต์ไฟฟ้าของอาเซี่ยนได้อย่างชาญฉลาด และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้ทุกคนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น แนวทางของวินฟาสต์ยังสอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมที่กำลังมุ่งสู่โมเดลการสมัครสมาชิก ซึ่งดึงดูดใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ไม่ยึดติดกับแนวคิดการเป็นเจ้าของรถยนต์ในแบบเดิม

จากการศึกษาผู้ซื้อยานยนต์ทั่วโลกในปี 2024 ( 2024 Global Automotive Consumer Study) ซึ่งสำรวจกลุ่มผู้บริโภค 27,000 รายใน 26 ประเทศ ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงความคิดแบบนี้ โดยพบว่า 46% ของผู้ตอบแบบสอบถามในอาเซียนที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี เปิดรับรูปแบบการใช้รถยนต์แบบสมัครสมาชิก ขณะที่การศึกษาในกลุ่มชาวอเมริกันในปี 2023 พบว่า Gen Z และกลุ่มมิลเลนเนียล มากกว่า 70% เปิดรับแนวคิดการเช่าแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแยกต่างหากจากการซื้อรถ

การเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้บริโภคดังกล่าวอาจเปิดโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ ๆ ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ และโมเดลธุรกิจใหม่ของวินฟาสต์อาจเรียกได้ว่ากำลังเข้ามาบุกเบิกวงการ คงต้องจับตามองต่อไปถึงความสำเร็จของรูปแบบบริการของวินฟาสต์ในตลาดอาเซียนนอกเหนือจากตลาดเวียดนาม แต่อย่างน้อย การที่วินฟาสต์สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในเรื่องความกังวลเกี่ยวกับราคารถยนต์ ประสิทธิภาพการใช้งาน และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ก็ถือว่าได้ใจผู้คนไปไม่น้อย

 

บริการแบตเตอรี่แบบเช่า เพื่อการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างมั่นใจ ไร้กังวล

ด้วยโมเดลธุรกิจของวินฟาสต์ ลูกค้าสามารถเช่าแบตเตอรี่โดยจ่ายเป็นรายเดือนแทนการซื้อขาด แนวทางนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายก้อนแรกในการซื้อรถ และประหยัดค่าใช้จ่ายการใช้รถในระยะยาว ส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่ต้องการมากขึ้น และผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

วินฟาสต์มีความมั่นใจว่าโมเดลธุรกิจที่บุกเบิกวงการนี้ “ไม่เหมือนใคร” “ก้าวล้ำ” และ “สร้างสรรค์” แม้จะดูเป็นกลยุทธ์การตลาดทั่วไป แต่โมเดลนี้ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจในตลาดเวียดนาม โดยบริษัทมียอดขายขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้

โมเดลแบตเตอรี่แบบเช่ายังตอบโจทย์ในเรื่องความกังวลของลูกค้าเกี่ยวกับการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ โดยรับประกันในการบำรุงรักษาและเปลี่ยนแบตเตอรี่ฟรีเมื่อมีความจุลดลงต่ำกว่า 70% เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจถึงประสิทธิภาพสูงสุดและไร้ความกังวลในการใช้รถ  

นอกเหนือจากการดูแลลูกค้าในระยะยาวแล้ว โมเดลแบตเตอรี่แบบเช่ายังช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว  แม้จะมีค่าใช้จ่ายค่าแบตเตอรี่รายเดือนเกิดขึ้น แต่เมื่อเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปแล้วยังถือว่าประหยัดกว่า 

แนวทางของวินฟาสต์ยังสามารถลดความเสี่ยงในเรื่องค่าใช้จ่ายให้กับผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง เนื่องจากบริษัทเป็นเจ้าของแบตเตอรี่และรับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่  กลยุทธ์นี้ยังเป็นประโยชน์ต่อวินฟาสต์เองให้สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องจากตลาดรถยนต์มือสอง

ยิ่งไปกว่านั้น การที่วินฟาสต์เป็นเจ้าของแบตเตอรี่ยังช่วยให้ลูกค้ามั่นใจได้ถึงการจัดการแบตเตอรี่ที่หมดอายุการใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบ โดยร่วมมือกับบริษัทรีไซเคิลหลายรายและศึกษาแนวทางในการนำแบตเตอรี่กลับมาใช้ใหม่เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

จากความสำเร็จในตลาดเวียดนาม  วินฟาสต์กำลังนำโมเดลนี้ไปสู่ตลาดสำคัญอื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น อินโดนีเซีย โดยรถยนต์ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า VF e34 ของวินฟาสต์จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 718,000 บาท (ประมาณ  19,416 ดอลลาร์สหรัฐ) โดยไม่รวมแบตเตอรี่ ซึ่งต่ำกว่ารถคู่แข่งที่ใช้น้ำมันเบนซินหลายราย ลูกค้าสามารถเลือกการสมัครสมาชิกแบตเตอรี่รายเดือน: ประมาณ 3,700 บาท (100 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อเดือน สำหรับระยะทางสูงสุด 3,000 กม. หรือ 6,400 บาท (173 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อเดือน โดยไม่จำกัดระยะทาง

โมเดลธุรกิจของวินฟาสต์ยังจะสร้างแนวโน้มที่ดีสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสองอีกด้วย การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้เผยให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีค่าเสื่อมราคาสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปีที่ผ่านมา ราคาลดลงโดยเฉลี่ย 31.8% เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ที่ลดลงเพียง 3.6% การที่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อมราคาอย่างรวดเร็วนี้เกิดจากการทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อรถยนต์ไฟฟ้าว่าน่าจะคล้ายกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มูลค่าจะลดลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่มีราคาแพง หากผู้ซื้อคาดการณ์ว่าจะต้องจ่ายค่าซ่อมแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพสูงมาก พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะไม่พิจารณารถยนต์ไฟฟ้ามือสอง

ผู้บุกเบิกโมเดลใหม่ในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า

โมเดลธุรกิจใหม่ของวินฟาสต์สร้างสมดุลระหว่างแนวคิดดั้งเดิมของการเป็นเจ้าของแบตเตอรี่และโมเดลในซื้อรถแบบไม่มีแบตเตอรี่ ซึ่งจะสามารถลดค่าใช้จ่ายก้อนแรกสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าโดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่มีราคาแพงและบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน และด้วยโมเดลการสมัครสมาชิกแบบนี้ ลูกค้าสามารถพิจารณาวินฟาสต์ให้เป็นทางเลือกที่ดีกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน  เนื่องจากมีโครงสร้างค่าใช้จ่ายที่คล้ายคลึงกัน ความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมทำให้วินฟาสต์เป็นบริษัทที่น่าจับตามอง และอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกแนวทางในการซื้อรถยนต์ของผู้บริโภคในอนาคต

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่