หน้าแรก CAR ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส ( 911 GT3 RS) ความสมบูรณ์แบบแห่งสมรรถนะอันสูงสุด CARWORLD CAR ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส ( 911 GT3 RS) ความสมบูรณ์แบบแห่งสมรรถนะอันสูงสุด โดย Tong Tmotortrip - เมษายน 1, 2024 110 0 FacebookTwitterPinterestอีเมลLINECopy URL 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911 GT3 RS) เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ถ่ายทอด DNA ของรถแข่งปอร์เช่อย่างแท้จริง ที่สุดแห่งยนตรกรรมคันนี้ได้เผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้รูปลักษณ์อันดุดัน และตอกย้ำถึงการออกแบบที่มุ่งเน้นไปที่สมรรถนะอันสูงสุด มาพร้อมพละกำลังอันทรงพลัง 386 กิโลวัตต์ (525 แรงม้า) ถ่ายทอดเทคโนโลยีและแนวคิดจากมอเตอร์สปอร์ตอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยเครื่องยนต์ที่หมุนรอบสูงตามธรรมชาติ ผสานกับโครงสร้างน้ำหนักเบาอัจฉริยะ พร้อมความเหนือชั้นด้วยระบบระบายความร้อนและแอโรไดนามิกของ 911 จีที3 อาร์เอส (911 GT3 RS) ที่มี DNA จากมอเตอร์สปอร์ตอย่าง 911 จีที3 อาร์ (911 GT3 R) ระบบระบายความร้อนของ 911 GT3 RS นั้นมีความพิเศษกว่ารถสปอร์ตทั่วไป โดยใช้คอนเซปต์การวางหม้อน้ำไว้กลางตัวรถ เพื่อช่วยกระจายความร้อนได้ทั่วถึงทั้งเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เย็นลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้อากาศไหลเวียนผ่านเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น และ ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถ ทำให้รถควบคุมได้ดีขึ้นซึ่งเปนนวัตกรรมมาจากรถแข่งรุ่นพี่อย่าง 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันเลอมังส์ (Le Mans) และต่อมาใน 911 จีที3 อาร์ (911 GT3 R) แนวคิดนี้ละทิ้งวิธีการแบบดั้งเดิมคือใช้หม้อน้ำแบบ 3 ใบ และหันมาใช้หม้อน้ำขนาดใหญ่เพียงใบเดียว วางทำมุมตรงจมูกรถ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ช่องเก็บสัมภาระของ 911 สำหรับรุ่นอื่นๆ การออกแบบวิธีนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างด้านข้าง ช่วยให้สามารถติดตั้งองค์ประกอบแอโรไดนามิกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จากเทคโนโลยีระบบแอโรไดนามิกที่ล้ำสมัย องค์ประกอบของช่องรับลมด้านหน้าและด้านหลังสามารถปรับได้ ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกันองค์ประกอบเหล่านี้สามารถสร้างแรงกดมหาศาลที่409 กิโลกรัม ณ ความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ 911 จีที3 อาร์เอส (911 GT3 RS) ใหม่ สามารถสร้างแรงกด (Downforce) ได้มากเป็น 2 เท่าของรุ่นก่อนหน้าอย่าง 991.2 และมากเป็น 3 เท่าจากรุ่น 911 จีที3 (911 GT3) ที่ความเร็ว 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีแรงกดรวมถึง 860 กิโลกรัม เป็นครั้งแรกที่ปอร์เช่ ได้ติดตั้งระบบลดแรงต้าน Drag Reduction System (DRS) เพื่อตอบโจทย์ในการขับขี่ที่ใช้ความเร็วสูงในเส้นทางตรงของสนามแข่ง ระบบ Drag Reduction System (DRS) นั้นจะทำให้ช่องลม เป็นแนวระนาบทันทีที่กดปุ่ม ในช่วงการทำงานที่กำหนดไว้ เมื่อมีการเบรกในขณะที่ใช้ความเร็วสูง จะมีฟังก์ชั่นพิเศษเข้ามาช่วย โดยการเปิดช่องลมด้านหน้าและด้านหลังให้กว้างที่สุด เพื่อที่จะลดแอโรไดนามิก ส่งผลให้การทำงานของเบรกมีประสิทธิภาพมากขึ้น 911 จีที3 อาร์เอส (911 GT3 RS) มาพร้อมกับการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ Normal, Sport และ Track และสำหรับโหมด Track สามารถปรับ Setting ระบบต่างๆ แยกกันได้ หนึ่งในนั้นคือ ระบบช่วงล่าง ด้านหน้า และด้านหลัง สามารถปรับแต่งให้ต่างกันได้ ในส่วนของระบบเฟืองท้าย สามารถปรับได้โดยการควบคุมผ่านสวิตซ์ควบคุมแบบหมุนที่พวงมาลัย การทำงานถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการออกแบบที่พัฒนามาจาก มอเตอร์สปอร์ต ซึ่งบนพวงมาลัยจะถูกติดตั้งด้วยปุ่มควบคุมแบบหมุน 4 ตัว และปุ่มกด Drag Reduction System (DRS) หรือเรียกว่าปุ่มระบบลดแรงต้าน เครื่องยนต์ชนิดรอบจัด ขนาด4.0ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ ที่ออกแบบมาอย่างลงตัวกับ 911 GT3 สามารถสร้างแรงม้าได้สูงถึง 386 kW (525 PS) โดยมีการออกแบบ รูปแบบของเพลาลูกเบี้ยวใหม่, ท่อร่วมไอดีแบบแยกเดี่ยว และวาล์วไอดี ที่ถ่ายถอดการออกแบบมาจากสนามแข่งมอเตอร์สปอร์ต ระบบเกียร์ PDK 7 สปีด มีอัตราทดเกียร์โดยรวมสั้นกว่า 911 GT3 และช่องอากาศเข้าที่ใต้ท้องรถช่วยให้แน่ใจว่าระบบส่งกำลังสามารถรับน้ำหนักได้มากแม้ในระหว่างการใช้งานบนสนามแข่งอย่างหนักหน่วง 911 GT3 RS สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลา 3.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 296 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โครงสร้างน้ำหนักเบาอัจฉริยะถือเป็นหลักการพื้นฐานของรุ่น RS ทุกรุ่นนับตั้งแต่ 911 Carrera RS 2.7 ในตำนาน ด้วยกลยุทธ์การลดน้ำหนักที่หลากหลาย เช่น การใช้วัสดุ CFRP แทนชิ้นส่วนต่างๆ ในรถหลากหลายชิ้น ทำให้ลดน้ำหนัก 911 GT3 RS ลงเหลือเพียง 1,450 ถึงแม้จะมีส่วนประกอบที่ใหญ่อยู่มากก็ตาม เช่น ประตู ปีกหน้า หลังคา และฝากระโปรงหน้า ก็ได้ผลิตจากวัสดุ CFRP เช่นกัน และนอกจากนี้วัสดุ CFRP ยังถูกนำมาใช้ภายในห้องโดยสารด้วย เช่น เบาะนั่งมาตรฐานแบบ full bucket เอเอเอส กรุ๊ป ผู้นำเข้ารถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ โดยได้รับการแต่งตั้ง จากโรงงานปอร์เช่ ประเทศเยอรมนีพร้อมให้แฟนชาวไทยได้สัมผัสตัวจริงกันแล้ววันนี้ บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน Volvo EX30 Cross Country2026 ออกแบบเพื่อลุยทุกเส้นทาง Xiaomi SU7 Ultra สร้างสถิติ Chengdu Tianfu Circuit เร็วกว่า BMW M3 Geely Galaxy L6 EM-i ในจีนท้าชิงส่วนแบ่ง BYD Qin L ราคาน่าสนใจ Mercedes-Benz Sprinter ฉลองครบรอบ 30 ปีแห่งความสำเร็จ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย รับรางวัลใบประกาศเกียรติคุณ ธงขาวดาวเขียว ประจำปี 2567 กลุ่ม Fundrive Super Car มั่นใจเลือกใช้น้ำมันบางจากไฮพรีเมียม 97 วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม โตโยต้าแถลงยอดขายปี 2567 พร้อมชี้ 2568 ยอดขายที่ 600,000 คัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ไพร์ม (PRIME) ใหม่(2025) เอ็มจี ตั้งเป้ายกระดับแบรนด์ ทั้งผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขาย ขึ้นแท่น Top 3 ภายในทศวรรษที่ 2 ทิ้งคำตอบไว้ ยกเลิกการตอบ กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ! กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่ คุณป้อนที่อยู่อีเมลไม่ถูกต้อง! กรุณาใส่ที่อยู่อีเมลของคุณที่นี่ Δ