ชื่อของ TANK ดูจะไม่คุ้นหูของคนไทยสักเท่าไหร่แต่ทว่าเมื่อลองกย้อนกับไปถึงจุดเริ่มต้นและคตวามสำเร็จของเขาคงยากจะปฏิเสธว่าชื่อนี้ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน GWM TANK เป็นรถยนต์ภายใต้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่มุ่งเน้นการพัฒนารถยนต์เอสยูวีในสไตล์ออฟโรดที่มีความแข็งแกร่ง บึกบึน ผสมผสานกับความพรีเมียม หรูหรา และความอเนกประสงค์ในการใช้งาน

www.tmotortrip.com

            โดยรถยนต์ GWM TANK ได้รับการพูดถึงในวงกว้างอย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศจีนภายในงาน Guangzhou Auto Show ประจำปี 2564 ซึ่ง GWM TANK 500 สามารถทำยอดจองได้ถึง 26,000 คัน เพียง 2 ชั่วโมงหลังเปิดตัว นอกจากนี้ GWM TANK 300 ยังได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดจีน จนเกิดปรากฏการณ์หาซื้อยาก หรือ “TANK Phenomenon” ยิ่งไปกว่านั้น การเปิดตัวของ All New GWM TANK 500 HEV ในประเทศไทยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2566 มียอดจองสิทธิ์ซื้อทะลุมากกว่า 1,000 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ตั้งแต่เปิดรับจองสิทธิ์ และตอกย้ำความร้อนแรงด้วยการคว้ารางวัล “The Most Exciting SUV Award” หรือ รางวัลรถยนต์เอสยูวีที่สร้างความตื่นเต้นได้มากที่สุด ภายในงานอีกด้วย

www.tmotortrip.com

            มาดูกันว่าเขามีอะไรน่าสนใจ แน่นอนเราต้องมาเริ่มกันที่การออกแบบบภายนอกที่ได้รับการพูดถึงอย่างมาก All New GWM TANK 500 Hybrid SUV มาพร้อมกับแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะที่ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง วางใจได้ รองรับระบบส่งกำลังได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ ICE, HEV และ PHEV รองรับได้ทั้งเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรและ 3.0 ลิตร แล้วเขาก็มีรูปร่างที่เน้นความแข็งแกร่งเส้นสายต่อเนื่องตลอดทั้งคันบ่งชี้ว่านี่คือรถเอสยูวีขนาดใหญ่ที่มีความหรูหราดังจะเห็นเขาเลือกวัสดุโครเมี่ยมตัดขอบตลอดทั้งคันตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงด้านหลัง มีมิติตัวรถขนาดกว้างขวาง ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถ ใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน มิติตัวรถ  1,934 x 5,078 x 1,905 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,850 มม.

การออกแบบระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ดับเบิล ครอส อาร์ม และระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายเพื่อตอบสนองการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง เพื่อความต้องการของทุกคนในครอบครัว งานดีไซน์ด้านหน้า ออกแบบภายใต้ปรัชญาของ “ความหรูหราที่แข็งแกร่ง” ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ผสานช่องระบายอากาศแนวนอนและโลโก้ TANK ที่ลงตัวรับเส้นสายที่นูนขึ้นของฝากระโปรง ส่วนไฟหน้า Intelligent LED ถือว่ามีความโดดเด่นตั้งแต่แรกเห็นแล้วยังมีระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow me home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอก LED

www.tmotortrip.com

            ขยับมาดูการออกแบบด้านหลัง สิ่งที่เราเห็นคือเขาต้องการสร้างความเป็นออฟโรดที่เราเคยเห็นอยู่ในรถเอสยูวีขนาดใหญ่ ด้วยการจัดวางประตูท้ายแบบ horizontal เปิดแบบขวาง พร้อมระบบดูดไฟฟ้า ที่ช่วยผ่อนแรงและอำนวยความสะดวกสบายในการปิดประตูท้าย ยางอะไหล่ติดตั้งบนประตูท้าย พร้อมกล้องมองหลังที่ซ่อนอยู่บนฝาครอบยางอะไหล่ได้อย่างลงตัว ไฟท้าย Vertical LED มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟตัดหมอกแบบ LED แล้วที่ดูพรีเมี่ยมแบบเอสยูวีระดับบนก็ต้องหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ เปิด – ปิดด้วยระบบไฟฟ้า มาพร้อมราวหลังคาเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน เสาอากาศแบบ shark fin และสปอยเลอร์ท้าย ซึ่งช่วยในเรื่องแอร์โรไดนามิค บันไดข้างระบบไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชัน เปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อเปิด-ปิดประตู และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/50 R20 ช่วยเสริมให้มิติตัวรถดูแน่นขึ้น

            ขณะเดียวกันส่วนของห้องโดยสารยิ่งทำให้เรายากจะปฏิเสธว่างานประกอบเขายอดเยี่ยมขนาดไหนมาพร้อมกับสไตล์ Luxury กว้างขวาง สะดวกสบาย และใส่ใจในทุกรายละเอียด คอนโซลหน้าสีทูโทน เบาะหนัง NAPPA ลำโพง Infinity และการตกแต่งห้องโดยสารด้วย Ambient Light, วัสดุสี Black, Silver, Piano Black, Chrome การเชื่อมต่อของหน้าจอทั้ง 3 ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและปลอดภัย หน้าจอกลาง ขนาด 14.6 นิ้ว รองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP3, Bluetooth, ระบบนำทาง, และแสดงข้อมูลการขับขี่ต่าง ๆ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ขนาด 12.3 นิ้ว แล้วยังมีแสดงข้อมูลบนกระจกด้านหน้า เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศและเบาะหนัง NAPPA  อีกจุดที่น่าสนใจคือแผงควบคุมที่คอนโซลกลาง พร้อมฟังก์ชันควบคุมการขับขี่แบบออฟโรด ช่วยให้การปรับเปลี่ยนการขับขี่ในสถานการณ์ต่าง ๆ เกียร์แบบ Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้า ดีไซน์หรู สีเดียวกับแผงคอนโซล

www.tmotortrip.com

            ด้านขุมพลังนั้นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 350 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 616 นิวตันเมตร ระบบเกียร์แบบ DHT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด รองรับการขับขี่ที่หลากหลายพร้อมโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 11 รูปแบบ Normal ,Sport ,Eco (ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง),Auto ,Mud ใช้เกียร์ต่ำ รอบสูง ปิดระบบ ESC และ VDC (ขับเคลื่อน 4 ล้อ),Sand ใช้เกียร์ต่ำ รอบสูง เปิดระบบล็อกเฟืองขับ(ขับเคลื่อน 4 ล้อ),Rock โหมดการขับขี่บนพื้นหินขนาดใหญ่ เปิดระบบล็อกเฟืองขับ (ขับเคลื่อน 4 ล้อ) 4H ,Snow ใช้เกียร์สูง รอบต่ำ ป้องกันล้อหมุนฟรี (ขับเคลื่อน 4 ล้อ),4L และExpert แล้วก็ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบออฟโรดอันชาญฉลาดและล้ำสมัย เพื่อให้ทุกการผจญภัยสนุกสนานและน่าจดจำเช่น ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Electric Differential Lock for front and rear axles)

ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดของยานพาหนะเมื่อเผชิญกับทางลาดชัน โคลน ทะเลทราย และภูมิประเทศที่ซับซ้อนอื่น ๆ ด้วยกลไกการถ่ายโอนกำลัง ทำงานร่วมกันกับกลไกล็อกของกล่องถ่ายโอนทั้งล้อหน้าและล้อหลัง สร้างระบบขับเคลื่อนออฟโรดแบบ 3 Locks เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ออฟโรดที่ดีเยี่ยม แล้วก็ยังมีระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn) หลังจากเปิดฟังก์ชัน เมื่อระบบตรวจพบความตั้งใจในการบังคับเลี้ยวมากเกินไป ระบบจะส่งแรงเบรกไปที่ล้อหลังด้านในเพื่อลดรัศมีวงเลี้ยว เพื่อช่วยให้รถสามารถเลี้ยวในวงแคบได้

            สรุปความรู้สึกหลังได้ทดสอบ All New GWM TANK 500 Hybrid SUV คือรถที่เป็นออฟโรดแบบพรีเมียมมีความหรูหรามาให้แต่ยังคงไปในเส้นทางออฟโรดได้ถ้าคิดจะลุยจริงคงต้องเปลี่ยนยางเป็นแบบ AT หรือ MT แต่อีกความคิดผมคิดว่าคงมีไม่กี่คนที่คิดจะไปลุยเพราะขับในเมืองน่าจะหล่อกว่า เรื่องเทคโนโลยีคิดว่าไม่น่ามีปัญหาชวนสงสัยเพราะเขาจัดเต็มแบบครบถ้วนในรุ่นULTA รุ่น PRO จะแตกต่างกันบางอย่าง ด้านพละกำลังมีมาให้ใช้เหลือเฟือบางครั้งเราเองในการทดสอบก็เผลอทำความเร็วแบบไม่รู้ตัว ทั้งช่วงล่างที่นิ่งและการเก็บเสียงห้องโดยสารที่ดีจึงทำให้ทุกอย่างลงตัว ราคาค่าตัวที่เปิดมา Tank 500 HEV PRO : 2,049,000 บาท Tank 500 HEV ULTRA : 2,269,000 บาท คุณคิดว่าอย่างไร สำหรับผมเมื่อเทียบกับสิ่งที่ให้มาก็ดูแล้วสมราคา.


            ข้อมูลเทคนิค

            รุ่นรถ                 All New GWM TANK 500 Hybrid SUV

            แบบตัวถัง          SUV

            มิติ(กว้าง xยาว x สูง มม.) 1,934 x 5,078 x 1,905

            แบบเครื่องยนต์   เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน (VGT)

            ความจุ              1,998  ซีซี.

            กำลังสูงสุด         244 แรงม้า 5,500 – 6,000 รอบ/นาที

            แรงบิดสูงสุด       380 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 4,000 รอบ/นาที

            กำลังมอเตอร์      106 แรงม้า

            แรงบิดมอเตอร์   268 นิวตันเมตร

            ระบบส่งกำลัง     DHT electronic 9 Speed

            ระบบขับเคลื่อน    4 ล้อ AWD Dual Speed

            พวงมาลัย           แร็คแอนด์พิเนียน พาวเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า(EPAS)

            อัตราเร่ง                      

            ความเร็วสูงสุด    180 กม./ชม.(โดยประมาณ)

            ความจุถังน้ำมัน   75 ลิตร

            ขนาดยาง/หน้า/หลัง 225/55 R18

            ช่วงล่าง 

            หน้า                  อิสระปีกนกคู่ Double Cross Arm

            หลัง                  คานแข็ง (Torsion Beam) พร้อม Multi-link

            ระบบเบรกหน้า/หลัง    ดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อน/ดรัมเบรก ABS/EBD & EBA

            เว็บไซต์              https://www.gwm.co.th


ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่