โตโยต้าได้แนะนำรถยนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงนั่นคือ TOYOTA YARIS ซึ่งมียอดขายรวมในประเทศไทยกว่า 418,000 คัน* นับตั้งแต่เปิดตัวในปี พ.ศ.2548 และยังได้รับความนิยมด้วยยอดขายอันดับ 1 ในตลาดอีโคคาร์แฮทช์แบ็คในปี พ.ศ.2565 ที่ผ่านมาอีกด้วย ในวันนี้ผมมีความยินดี ที่จะแนะนำ TOYOTA YARIS รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนาทั้งในด้านรูปลักษณ์ และฟังก์ชันการใช้งาน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น
นายรัฐพล ชุมสมุทร หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค กล่าวถึงการพัฒนารถรุ่นนี้ว่า“TOYOTA YARIS รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่นี้ เรารักษาจุดแข็งของคอมแพคแฮทช์แบ็คไว้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความประหยัดน้ำมัน ความนุ่มนวล และคล่องแคล่วในการขับขี่ ห้องโดยสารนั่งสบาย เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย และครั้งนี้เรายังได้เสริมจุดเด่นของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตอบรับแอคทีฟไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่”
โดยมี 3 ส่วนหลักในการพัฒนา ดังนี้
1. การดีไซน์ภายนอก ธีมการออกแบบ Refined & Energetic ให้ความรู้สึกปราดเปรียวน่าขับขี่
- “Hammerhead Design” เทรนด์ใหม่ล่าสุดของ TOYOTA
- ไฟหน้า Projector LED แนวคมเข้ม ผสานกับ Daytime Running Light พร้อมดีไซน์ “Secondary Illumination” ที่ทำให้รู้สึกพุ่งทะยานไปข้างหน้า
- กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ แบบ “Diffuser Style” พร้อมตกแต่งด้วยลาย Carbon fiber
- สีภายนอกใหม่ “Cement Gray Metallic” ที่โดดเด่น พร้อมสีทูโทน ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับรถได้เป็นอย่างดี
- ดีไซน์ภายในด้วยวัสดุคุณภาพสูงสำหรับเบาะนั่ง พร้อมโทนสีที่หลากหลาย อย่าง “Orchid brown” ซึ่งดีไซเนอร์ได้เลือกใช้โทนสีดำ สลับกับสีน้ำตาล และเลือกใช้ “Accent ribbon” สีน้ำตาลอ่อนให้ความรู้สึกเรียบหรู น่าค้นหา
2. ฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย เพื่อความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
- “Toyota Safety Sense” เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถยนต์โตโยต้า
- Blind Spot Monitor (BSM)
- Rear cross-Traffic Alert (RCTA)
- กล้องมองรอบคัน
- เพิ่มขนาดหน้าจอสัมผัส ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว
- ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบ USB type C เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร
3. ความคุ้มค่า เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ได้แก่
- ไฟหน้าแบบ Projector LED
- ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม
- ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบ USB type C สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- แตร “Trumpet Horn”
- หน้าจอแบบสัมผัส
ราคาจำหน่าย
- รุ่น SPORT ที่มาพร้อมไฟหน้า Projector LED และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว
ราคา 559,000 บาท
- รุ่น SMART โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วย Push Start & Smart Entry และหน้าจอสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว
ราคา 619,000 บาท
- รุ่น PREMIUM ครบครันด้วยหน้าจอสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว BSM RCTA และกล้องมองรอบคัน
ราคา 679,000 บาท
- รุ่น PREMIUM S ภายในสีทูโทน แดง-ดำ ภายในสีแดง และวัสดุตกแต่งเพิ่มเติมภายนอก
ราคา 694,000 บาท”
หมายเหตุ ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
และยังสามารถเลือกเป็นเจ้าของ พร้อมชุดแต่ง ตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ 3 รูปแบบ
- LUSSO ให้ความพรีเมียม ราคา 19,990 บาท
- CHIARO ที่ดูเรียบหรู ราคา 9,690 บาท
- PRESTO เติมอารมณ์สปอร์ต ราคา 16,500 บาท