แอทต้า ออโต้เฮ้าส์ ( ATTA Autohaus)โชว์รูมและศูนย์บริการเมอร์เซเดส–เบนซ์ ครบวงจร ใหม่ล่าสุด บนถนนราชพฤกษ์ ในรูปแบบ Thailand’s first automotive digital space’ แห่งแรกในประเทศไทย กับพื้นที่การบริการที่นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ สร้างสรรค์นวัตกรรมการบริการ Service Innovation บนที่พื้นที่กว่า 5 ไร่ ด้วยงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท
เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ที่ว่าเทคโนโลยีสามารถตอบสนองความต้องการ ที่หลากหลายของแต่ละบุคคลได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงเกิดการริเริ่มนำเสนอ รูปแบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพสร้างสรรค์และยั่งยืน ผ่านสินค้าและการบริการอันล้ำสมัยของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ควบคู่ไปกับการนำเสนอนวัตกรรมการบริการรูปแบบใหม่ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล เป็น องค์กรที่ขับเคลื่อนโดยจุดมุ่งหมาย (Purpose Driven Organizatioin) โดยมีคุณค่าหลักขององค์กรในเรื่อง Innovation – Sustainability – Leadership สะท้อนออกมาเป็นองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่างในการคิดค้นนวัตกรรมการบริการ ได้แก่
* High-Tech คือการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและทันสมัย
* High-Touch คือการเชื่อมต่อประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ
* High-Value คือการสร้างคุณค่าต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งด้านเศรฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อม (Profit Planet People) ต่อไป
ผู้บริหารแอทต้า ออโต้เฮ้าส์ คุณโอ จิตติรัตน์ ตันตสิรินทร์ (CEO) และ คุณโอ๋ เบญจรัตน์ ตันตสิรินทร์(CFO) ทายาทรุ่นที่ 2 เบนซ์ตลิ่งชัน ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามามากว่า 40 ปี มีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการลูกค้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วยเทคโนโลยี ซึ่งทั้ง 2 ผู้บริหาร ตั้งใจให้ แอทต้า ออโต้เฮ้าส์ เป็น “องค์กรที่ยอมรับความแตกต่างและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้คน (Diversity & Inclusion Workplace)” เปิดโอกาสให้คนทุกเพศ ทุกวัย ได้เข้ามาเรียนรู้และแบ่งปันทรัพยากรให้เป็นองค์กรที่สร้าง คุณค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้ในระดับโลก มุ่งเน้นการพัฒนาคน (Digital Generation) ที่พร้อมและสามารถรับฟังความต้องการและนำเสนอสินค้าและบริการให้ได้ตรงใจลูกค้า พนักงานทุกคนจะผ่านการอบรมและกระบวนการพัฒนาเพื่อให้เข้าใจตนเองและเรียนรู้ที่จะอยู่กับความต้องการที่หลากหลายได้อย่างสร้างสรรค์ สามารถรับฟังลูกค้า และเป็นที่ปรึกษาการเลือกซื้อรถยนต์และเข้ารับบริการเกี่ยวกับรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้อย่างเข้าใจและเป็นมืออาชีพ ควบคู่ไปกับพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลเพื่อให้เกิด ประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ (Digital Experience & Digital Solution) นอกจากนี้ แอทต้า ออโต้เฮ้า ยังได้จัดตั้งแผนก business innovation และ immersive experience division ขึ้นเพื่อพัฒนางานบริการอย่างต่อเนื่อง
แอทต้า ออโต้เฮ้าส์ ได้รับรางวัลระดับโลก ชนะเลิศในการเป็นองค์กรต้นแบบ Winner of Gender-Inclusive Workplace 2020, WEPs Award จาก UN Women ตั้งแต่ปีแรกที่เปิดทำการ และ รางวัล Winner Leadership Commitment 2021, WEPs Award จาก UN Women เป็นปีที่สองติดต่อกัน รวมถึงรางวัลการันตีด้านความพึงพอใจ ลูกค้าและยอดขาย ชนะเลิศ Winner of The Best CSI 5 Star Rater 2020 & 2021 -Bangkok และ Winner of Sell Out Competition Award 2020 & 2021 จาก Mercedes-Benz (Thailand) 2 ปีติดต่อกัน รวมถึงรางวัลชนะเลิศด้านคุณภาพงานบริการ Winner of Top Service Quality Score 2020 -Bangkok, Mercedes-Benz (Thailand) และ จำนวนผู้ตอบรับความพึงพอใจ Winner of Customer Take Rate 2020 – Bangkok, Mercedes-Benz (Thailand) และรางวัลชนะเลิศอันดับ2 ในการแข่งขันการบริการอันเป็นเลิศ 2nd Runner Up Service Excellence Award จาก Mercedes-Benz South East Asia Award
แอทต้า ออโต้เฮ้าส์ เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในเวลาเพียง 2 ปี สามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 20 % โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 4% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 5% ได้ในปี 2566 สำหรับยอดขายในกลุ่มลักชัวรีในไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 นี้ สัดส่วน Sales Volume เพิ่มขึ้น 10% และได้มีการวางเป้าหมายในปี 2565 นี้ไว้ดังนี้
* รถยนต์ใหม่ กลุ่ม PC เติบโต 10% units กลุ่ม AMG เติบโต 5% units
* ศูนย์บริการ เติบโต 15%
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดใน ปี 2565 ทางแอทต้า ได้ยึดกลยุทธ์ Partnership for the goals (Co-Create) ซึ่งถือเป็นมิติใหม่สำหรับกลยุทธ์ในวงการยานยนต์ เปิดกว้าง แบ่งปัน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของหลากหลายวงการ มาร่วมกันส่งมอบการบริการที่สะดวกสบายและมีคุณค่าสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าทั้งในรูปแบบ online และ offline ทางแอทต้าจึงได้เข้าร่วมกับแบรนด์ร้านค้า คู่ค้า ที่มีกลุ่มลูกค้ากลุ่มเดียวกัน จากหลากหลายวงการ นอกเหนือจาก ระบบนิเวศทางธุรกิจ ที่มีความเชื่อมโยงกัน (Ecosystem) ของธุรกิจรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น วงการแฟชั่น โรงแรม ร้านอาหาร อสังหาริมทรัพย์ และ อื่นๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและสร้าง Awareness ให้กับแบรนด์ แอทต้า อีกทั้งยังเป็นการสร้าง ประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้ลูกค้าและขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตและทีมงาน ให้สามารถรองรับการซ่อมบำรุงรักษาที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มยอดขายจากช่องทาง online อีกทางหนึ่ง
ในส่วนของแผนธุรกิจในปี 2566 ทางแอทต้าได้มีการวางแผนในการเดินหน้าในการปรับเปลี่ยนองค์กรเพื่อรองรับการเติบโตของยุคดิจิทัล (Digital Transformation) มุ่งเน้นรวมบรวมข้อมูลและจัดการระบบ Automated Process ในการส่งต่อข้อมูลแต่ละส่วนให้โปร่งใสทั้งคนทำงานและลูกค้า (Data Transparency) รวมถึงมีเป้าในลดปริมาณ การใช้กระดาษการดำเนินงานส่วนต่างๆให้เป็นศูนย์ (Zero Paper) และการลดการปล่อยปริมาณก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Zero Emission) สำหรับสินค้าและการบริการในอนาคตมองว่า รถยนต์ไฟฟ้า EVs จะเป็นตัวแปรสำคัญฉะนั้น ทางแอทต้า จึงได้เตรียมเชื่อมต่อข้อมูลลูกค้าและเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงสินค้าและการบริการผ่านระบบ online ซึ่งในขณะนี้ แอทต้า ได้มีการเริ่มสร้างโชว์รูมเสมือนจริง (Virtual Showroom) บน www.attaautohaus.com ให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์ และเข้าถึงข้อมูลของสินค้าได้ทุกที่ ทุกเวลาทั่วโลกเรียบร้อยแล้ว รวมถึงได้ติดตั้งพื้นที่ซ่อมบำรุงทั้งหมดเป็น Anti-Static เพื่อความปลอดภัยในการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า สอดคล้องและรองรับการเติบโตของเทคโนโลยี EVs และการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในอนาคต
จากข้อมูลทางการตลาด พบว่าแนวโน้มของลูกค้าในการถือครองรถยนต์มีระยะเวลาที่สั้นลงเรื่อยๆ และกลุ่มลูกค้ามีอายุลดลงในการเริ่มเป็นเจ้าของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ การตอบสนองความต้องการ และการจัดแคมเปญหรือโปรโมชั่น จะเน้นเป็นการออกแคมเปญย่อยๆสม่ำเสมอ และรวดเร็วเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และครองใจลูกค้าในการเข้ารับบริการให้เกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อ
ในโอกาสครบรอบ 2 ปีนี้ แอทต้า ออโตเฮ้าส์ มีการจัดทำแคมเปญพิเศษ “Double Surprise ได้ทั้งรถ ได้ทั้งลุ้น” แคมเปญสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทยแบบที่ไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อน เพื่อเป็นการขอบคุณและคืนกำไรให้กับลูกค้า ที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดีตลอด 2 ปีที่ผ่านมาโดยมอบสิทธิ์พิเศษให้สำหรับลูกค้าที่จองและออกรถยนต์ Mercedes Benz รุ่นใดก็ได้ที่ แอทต้า ออโต้เฮ้าส์ หรือ เบนซ์ตลิ่งชัน ภายในที่ 30 มิถุนายน 2565 ได้สิทธิ์ลุ้นรับ The All-new Mercedes-Benz C-Class รุ่นใหม่ล่าสุด มูลค่ากว่า 3ล้านบาท!! ซึ่งมีกำหนดการจับรางวัลในวันที่ 27 สิงหาคม 2565 นี้