ปอร์เช่พร้อมเปิดตัวยนตกรรมสปอร์ต SUV ปอร์เช่ คาเยนน์ (Cayenne)  เวอร์ชั่นสุดพิเศษ แพลทตินั่ม อิดิชั่น (Platinum Edition) โดดเด่นเหนือระดับด้วยงานออกแบบดีไซน์ที่ผสมผสานความหรูหรา และสง่างามจากสีพิเศษ Satin Platinum อัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาตรฐานมากมาย ผลลัพธ์คือรถสปอร์ตที่มีสไตล์ไม่ซ้ำใคร ควบคู่กับความคุ้มค่าที่ชวนให้ตัดสินใจครอบครองเป็นเจ้าของ สำหรับเวอร์ชั่นพิเศษ แพลทตินั่ม อิดิชัน (Platinum Edition) มีให้เลือกสรรตามความต้องการในรุ่น คาเยนน์ อี ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid) ซึ่งครอบคลุมถึงรุ่นตัวถังคูเป้ (Coupé) อีกด้วย

ปอร์เช่ คาเยนน์ แพลทตินั่ม อิดิชัน (Cayenne Platinum Edition) ทรงเสน่ห์ดึงดูดทุกสายตาจากรูปโฉมที่ได้รับการสร้างสรรค์อย่างประณีต แตกต่างอย่างเหนือชั้นด้วยรายละเอียดของชิ้นงานของสี Satin-finish Platinum ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้ารับอากาศในแผงกันชนหน้าแบบใหม่ ตัวอักษรปอร์เช่รวมอยู่ในแถบ LED เรืองแสงคาดยาวท้ายรถ ตราสัญลักษณ์เฉพาะรุ่น  และล้ออัลลอยด์มาตรฐานขนาด 21-นิ้ว ลาย RS Spyder Design เอกสิทธิ์พิเศษสำหรับ แพลทตินั่ม อิดิชัน (Platinum Edition) ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในแพคเกจสีพิเศษดังกล่าว ในส่วนของปลายท่อไอเสียสปอร์ต และกระจกมองข้างเน้นความสปอร์ตดุดันด้วยสีดำ สวยงามลงตัวกับสีภายนอก ทั้งสีขาว solid white ,สีดำ solid black ,สี metallic ดำ Jet Black, สีขาว Carrara White, สีน้ำตาล Mahogany, สีน้ำเงิน Moonlight Blue และสีพิเศษ สีเทาCrayon
งานตกแต่งภายในห้องโดยสารคืออีกหนึ่งผลงานดีไซน์ชั้นเลิศ ด้วยสายเข็มขัดนิรภัยสีเทา Crayon และแผ่นปิดประตูอลูมิเนียมปัดเงา ประทับตราสัญลักษณ์ ‘Platinum Edition’ ให้ได้สัมผัสถึงความหรูหรา พร้อมอุปกรณ์ตกแต่ง aluminium interior package และชิ้นงานภายในสีเงิน silver-coloured trims
ปอร์เช่ คาเยนน์ แพลทตินั่ม อิดิชัน (Cayenne Platinum Edition) มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาตรฐานที่เพิ่มเติมมาเป็นพิเศษหลากหลายรายการ อาทิ ไฟหน้า LED พร้อมระบบ Porsche Dynamic Light System (PDLS) หลังคากระจก panoramic roof  ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Bose ®surround-sound system ไฟภายในห้องโดยสาร ambient lighting เบาะนั่งแบบคอมฟอร์ทปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง ตราสัญลักษณ์ปอร์เช่ประทับบนหมอนรองศรีษะทั้งด้านหน้า และด้านหลัง และนาฬิกาเข็มสุดคลาสสิกบนแผงคอนโซลหน้า นอกจากนี้ยังสามารถเลือกสรรชุดอุปกรณ์ตกแต่งจาก Porsche Exclusive Manufaktur ที่มีรองรับทั้งอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร และตัวถังภายนอก ตอบโจทย์ความสวยงาม และเสริมสมรรถนะการขับขี่
ปอร์เช่ คาเยนน์  คาเยนน์ อี ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid) 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์) พร้อมรับคำสั่งซื้อแล้ว ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 6.6 ล้านบาท
อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 emission ได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐานสากลที่สอดคล้องกับวิธีการ Light Vehicle Test Procedure (WLTP) ล่าสุด สำหรับค่าการตรวจวัดอัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐาน NEDC ที่ระบุในบทความนี้ ใช้อ้างอิงได้เฉพาะสภาพการทดสอบในช่วงเวลาเดียวเท่านั้น ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับค่าการตรวจวัดอัตราสิ้นเปลืองของ NEDC ที่ได้จากวิธีการอื่นใดก่อนหน้าการทดสอบนี้
สำหรับข้อมูลอย่างเป็นทางการของผลทดสอบอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 emissions ในรถยนต์รุ่นใหม่อื่นๆ สามารถค้นหาได้จากเอกสารGuidelines on fuel consumption, CO2 emissions and power consumption of new passenger cars” [Leitfaden über den Kraftstoffverbrauch, die CO2Emissionen und den Stromverbrauch neuer Personenkraftwagen], ผ่านตัวแทนจำหน่ายและสถาบัน Deutsche Automobil Treuhand GmbH (DAT) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
เกี่ยวกับ Porsche Asia Pacific Pte Ltd
Porsche Asia Pacific Pte Ltd เป็นบริษัทในเครือของ Dr. Ing. h.c. F. Porsche AG ในฐานะผู้ผลิตรถสปอร์ตสมรรถนะสูงระดับชั้นนำของโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองสตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมัน มีวิสัยทัศน์ในการปฎิบัติงานที่มุ่งเน้นประสิทธิผลสูงสุดสำหรับการส่งมอบยานพาหนะชั้นเลิศให้แก่ผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม 911 นอกจากนั้นปอร์เช่ยังสร้างสรรค์ยนตกรรมสปอร์ตหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น ปอร์เช่ คาเยนน์ (Cayenne) มาคันน์ (Macan) พานาเมร่า (Panamera) 718 บ๊อกสเตอร์ (718 Boxster) และ 718 เคย์แมน (718 Cayman) ในปี 2019 ได้เปิดตัวปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบคันแรก
ปอร์เช่ เอเซีย แปซิฟิก เริ่มดำเนินงานอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ตุลาคม ปี 2001 ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการทำหน้าที่ควบคุมดูแลการปฎิบัติงานในตลาดภูมิภาค เอเซีย แปซิฟิก อย่างใกล้ชิดโดยปอร์เช่สำนักงานใหญ่ มุ่งเน้นในการเสริมสร้างความสัมพันธ์รวมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทั้งในด้านของงานบริการ การพัฒนาธุรกิจ การตลาด สื่อสารมวลชนและประชาสัมพันธ์ รวมทั้งงานขาย ปอร์เช่ เอเซีย แปซิฟิก รับบทบาทในการประสานงานครอบคลุม 13 ประเทศในภูมิภาค ประกอบด้วย: บรูไน, กัมพูชา, เฟรนช์ โปลีนีเซีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, มองโกเลีย, นิว แคลิโดเนีย, นิวซีแลนด์, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ศรีลังกา, ไทย และเวียดนาม

เกี่ยวกับ AAS Auto Service

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 13 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่