เราเคยสงสัยว่าทำไมนิสสันไม่ปรับโฉมสักทีเพราะที่ผ่านมา เทอร์ร่า ยังไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร แล้ววันนั้นก็มาถึงนิสสันตัดสินใจปรับโฉมเทอร์ร่าใหม่เพื่อสอดรับการกับยุคสมัยมากขึ้น คราวนี้เขาจึงมาพร้อมกับความเปลี่ยนเกือบทั้งหมดทั้งภายนอก-ใน และเทคโนโลยีความปลอดภัย
นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ รถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวที่พร้อมพาทุกคนไปทุกเส้นทาง ภายนอกดีไซน์ใหม่สะท้อนความละเอียดประณีตและโมเดิร์น ภายในดีไซน์ภายในใหม่เรียบหรูดูพรีเมียมกว่าเดิม สมรรถนะการขับขี่โดดเด่น ทนทาน ให้ความสะดวกสบายด้วยระบบเอ็นเตอร์เทนเมนท์คุณภาพสูงพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย 360 องศา ดูแลตลอดการขับขี่ ครบกว่ารถยนต์อเนกประสงค์ในระดับเดียวกัน
ดีไซน์ใหม่เพื่อสะท้อนความละเอียดประณีตแบบโมเดิร์น สะท้อนบุคลิกที่ทันสมัยยิ่งขึ้น
นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ เปลี่ยนดีไซน์ด้วยความละเอียดประณีต ถึงแม้จะพัฒนาตามแนวคิด “Unbreakable Design” ที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง แต่เทอร์ร่า ใหม่ ก็ให้ความรู้สึกที่หรูหราด้วยกระจังที่ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เส้นโครเมียมแนวนอนด้านในกระจังช่วยเสริมบุคลิกที่หรูหรา รับกับเส้นสายที่ต่อเนื่องจากฝากระโปรง เสริมแผ่นกันกระแทกด้านล่างที่เป็นสีเงิน ตามสไตล์เอสยูวีที่ทันสมัย ไฟหน้า Quad LED 4 ดวง ดีไซน์ใหม่ ประสิทธิภาพสูงให้ความสว่างมากขึ้นถึง 34% ตัวโคมไฟถูกดีไซน์ให้เพรียวบาง ดูปราดเปรียว และทันสมัย ไฟ Daytime Running Light ยิ่งทำให้ดีไซน์โดดเด่นกว่าเดิม ไฟตัดหมอก LED ประสิทธิภาพสูงล้อมรอบด้วยแถบโครเมียมขนาดใหญ่ ที่หรูหราให้แสงสีขาวที่เป็นธรรมชาติ รับกับมุมมองด้านหน้า ลดความร้อนแม้เปิดเป็นเวลานาน และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานกว่าเดิม
ขณะที่ด้านท้ายถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่สปอยเลอร์บนหลังคาจนถึงชายกันชนด้านล่าง ฝาท้ายเพิ่มความหรูหราและโดดเด่นมากขึ้นในทุกรายละเอียด ด้วยการใช้วัสดุโครเมียม และชิ้นส่วนสีเงินเข้ามาตกแต่งมากขึ้น ขณะที่ไฟท้ายลดความสูง และเพิ่มความกว้างมากขึ้นให้ดูโฉบเฉี่ยว โดยเป็น ไฟ LED แบบ Light Guide เส้นคู่ ให้ความรู้สึกล้ำสมัย ไฟเบรกแบบ LED ให้ทั้งความสว่าง ความสวยงาม และความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว ออกแบบให้สอดคล้องกับดีไซน์ภายนอก เพิ่มความสปอร์ต ด้วยการใช้สีทูโทนแบบปัดเงา
ภายในใหม่ที่ใส่ใจทุกรายละเอียดการใช้งาน ทำให้ทุกคนในครอบครับสะดวกสบายในทุกการเดินทาง
-
ภายในของ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ได้ถูกออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ ให้ความสะดวกสบายอย่างมีสไตล์ จากแผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่แบบกว้างเต็มพื้นที่ ทำให้รู้สึกถึงห้องโดยสารที่กว้างขวางยิ่งกว่าเดิม ตกแต่งด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ที่ให้สัมผัสนุ่มสบาย ใช้หน้าจอ Display Audio แสดงผลแบบสัมผัสใหม่ขนาด 9 นิ้ว ปุ่มควบคุมต่าง ๆ ถูกออกแบบใหม่พร้อมไฟเรืองแสงสีขาวสังเกตุง่าย และให้สัมผัสที่หรูหราของรถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวระดับพรีเมียม
-
คอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ติดตั้งระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบอัตโนมัติแยกการควบคุมอุณภูมิตามความต้องการของห้องโดยสารแต่ละด้าน พร้อมช่องแอร์ครอบคลุมผู้โดยสารทั้ง 7 ที่นั่ง ที่ ผู้โดยสารด้านหลังสามารถปรับแรงลมอิสระตามความต้องการ
-
เบาะนั่งดีไซน์ใหม่อย่างประณีต มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และใช้วัสดุระดับพรีเมียม
-
ห้องโดยสารยังคงความกว้างขวาง สะดวกสบาย ตามที่ลูกค้าชื่นชอบ และสามารถปรับพื้นที่ห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระได้ตามความต้องการ ด้วยการออกแบบที่นั่งแถวที่สอง และสาม ให้ปรับรูปแบบได้หลากหลาย เช่นการพับที่นั่งให้ราบเสมอกันเพื่อรองรับการบรรทุกสัมภาระได้เต็มพื้นที่
-
ที่นั่งแถว 2 มีฟังก์ชั่น Auto Tumble Seat ที่คอนโซลกลาง โดยจะพับอัตโนมัติเบาะแถวที่ 2 อัตโนมัติแค่กดปุ่มเพียงจากสวิตช์แบบ 1-Touch Remote Fold & Tumble เพื่อความสะดวกในการขึ้นลงของผู้โดยสารแถวที่ 3 เอกลักษณ์ของรถยนต์อเนกประสงค์จากนิสสันออกแบบแถวที่นั่งแบบ Theatre Style Seating แต่ไม่บดบังทัศนวิสัยของผู้ขับ และทำให้ผู้โดยสารแถวที่ 2 รู้สึกโปร่งโล่งสบายง เบาะนั่งแถวที่สามสามารถพับได้แบนราบ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย
-
ภายในห้องโดยสารของ เทอร์ร่า ใหม่ เพิ่มฉนวนลดเสียงรบกวนทุกจุดสำคัญของโครงสร้างของรถ และเป็นรุ่นเดียวในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ระดับเดียวกันที่มีการติดตั้งกระจกตอนหน้าและประตูคู่หน้าแบบ Acoustic Glass เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก ผู้โดยสารจึงสัมผัสได้ถึงความเงียบสบายในห้องโดยสารอย่างแท้จริง
-
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังรูปทรง D-shape แบบสปอร์ต ปรับอัตราทดใหม่ให้ควบคุมได้อย่างง่ายดาย และปลอดภัย พร้อมปุ่มควบคุมการทำงานของรถซึ่งขยายจอแสดงผลให้มีขนาด 7 นิ้ว สามารถปรับตั้งการทำงานของระบบต่าง ๆ ได้ผ่านปุ่มควบคุมที่พวงมาลัย มีให้เลือกทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และ เครื่องเสียงจาก Bose
-
คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่ และเปลี่ยนมาใช้เบรกมือไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น VL 2WD และ VL 4WD) เพิ่มพื้นที่ใช้สอยบริเวณคอนโซลกลาง รวมถึงสามารถเพิ่มพื้นที่ที่วางแขนพร้อมช่องเก็บของที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ฝาประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์ด้านใต้กันชนหลัง (Auto Lift Gate)* เพื่อความสะดวกในการเปิด-ปิด เพียงแค่ยื่นเท้าเข้าหาบริเวณกึ่งกลางของกันชน โดยไม่ต้องสัมผัสสวิตช์ที่ประตู และมีระบบป้องกันการหนีบเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
การเชื่อมต่อที่ไร้ขีดจำกัด สุนทรียภาพ และอัจฉริยภาพภายใน นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่
-
ระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bose Premium Audio System (ในรุ่น VL) ซึ่งนิสสันร่วมกับ Bose ออกแบบการจัดวางลำโพงทั้ง 8ตำแหน่ง และแอมพลิฟายเออร์ ให้เสียงคุณภาพสูงทำให้ทุกคนในห้องโดยสารเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง
-
ครั้งแรกกับเทคโนโลยีชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger) ให้กำลังการชาร์จไฟสูง 15 วัตต์ ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลหน้า เพียงแค่วางสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ที่รองรับก็สามารถชาร์จได้ทันที พร้อมไฟแสดงสถานะการชาร์จตลอดเวลา หมดปัญหาเรื่องพกพาสายชาร์จ หรือช่องชาร์จแบบ USB ไม่เพียงพออีกต่อไป
-
นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ เป็นผู้นำเทคโนโลยี Intelligent Rear View Mirror มาใช้เป็นรายแรก ติดกล้องความละเอียดสูงที่กระจกบานหลัง ให้จุดเด่นด้านความปลอดภัยตลอดการขับขี่ เสริมทัศนวิสัยที่ดีขึ้นในทุกสภาพอากาศ สามารถปรับมุมมองได้ตามความต้องการของผู้ขับ เพิ่มความชัดเจนแม้มีผู้โดยสารตอนหลัง หรือ สัมภาระขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังให้มุมมองที่กว้างกว่ากระจกมองหลังทั่วไป ให้ความชัดเจนแม้ในขณะฝนตกหนัก หรือแม้กระทั้งรถที่ติดฟิล์มมืดสนิทกว่าปกติ
-
ครั้งแรกกับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย (Wireless Apple CarPlay) เพิ่มความสะดวกอย่างปลอดภัยตลอดการขับขี่ สามารถใช้งาน Apple CarPlay ผ่านบลูทูธได้โดยไม่จำเป็นต้องต่อสายชาร์จอีกต่อไป ให้อิสระสำหรับผู้โดยสาร ไม่ว่าจะนั่งอยู่ตำแหน่งใดก็ใช้งานได้โดยไม่ต้องวางโทรศัพท์ไว้ด้านหน้า สามารถใช้งานแอปพลิเคชันและเข้าถึงความบันเทิงต่าง ๆ ในโทรศัพท์ได้ผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว สะดวกสบายตลอดการเดินทาง
-
เทคโนโลยี NissanConnect ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับ Apple CarPlay และ Android Auto** รองรับการใช้แอปพลิเคชันในโทรศัพท์ ผ่านหน้าจอสัมผัสระบบเครื่องเสียง Display Audio ใหม่ขนาด 9 นิ้ว ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน เพิ่มความคมชัดในการใช้งานด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยลดแสงสะท้อนของหน้าจอด้วยความละเอียดที่สูงขึ้นกว่าเดิมที่ระดับ WXGA (1024×768) พร้อมด้วยระบบนำทาง (Navigation System) และระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Recognition)
-
หน้าจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 11 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง สามารถสตรีมมิ่งช่องโปรด เช่น NetFlix และ YouTube ผ่านช่อง HDMI ได้อย่างง่ายดาย พร้อมช่องชาร์จไฟที่ช่วยให้ความบันเทิงไม่มีสะดุดตลอดการเดินทาง
-
เทอร์ร่า ใหม่ รุ่นเดียวในรถยนต์ระดับเดียวกันที่มีช่องชาร์จ USB สำหรับผู้โดยสารแถวทีสาม โดยทั้งคันมี USB-A 3 จุด และUSB-C 2จุด รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ และการชาร์จแบตเตอรี่
360° Safety Shield เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน มั่นใจได้ทุกสถานการณ์ แบบ 360 องศา
นิสสัน 360° เซฟตี้ ชิลด์ (360° Safety Shield Technology) เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ใน นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ที่ทำให้ทุกการขับขี่ เป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย
-
เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) เทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะทำงานทันทีที่เริ่มขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทางผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน กล้องทุกตัวจะจับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และแสดงผลเป็นภาพมุมสูงแบบ Bird’s-eye View ผ่าน หน้าจอเครื่องเสียงกลางคอนโซลขนาด 9 นิ้ว ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้ โดยจะปรากฏบนหน้าจอเครื่องเสียงกลางคอนโซล ช่วยให้การขับรถในสถานการณ์ต่าง ๆ ง่ายยิ่งขึ้น และพิเศษขึ้นไปอีก สำหรับ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ รุ่น 4WD ที่เพิ่มระบบ Off-Road Mode เมื่อเปิดระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งช่วยเพิ่มมุมมองรอบตัวรถขณะขับขี่ให้คุณมั่นใจและปลอดภัย แม้ในทางที่ลำบาก รวมถึงการทำงานร่วมกับ Parking Sonar ที่ติดตั้งเซนเซอร์ที่กันชนหน้า 4 จุด และกันชนหลัง 4 จุด เมื่ออยู่ในเกียร์ D และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เกิน 10 km/h ทันทีที่เซนเซอร์ตรวจพบวัตถุ จะส่งเสียงเตือนและระบบ IAVM จะแสดงภาพโดยอัตโนมัติที่หน้าจอเครื่องเสียง เพิ่มทัศนวิสัยให้ผู้ขับขี่ ลดข้อจำกัดสำหรับรถยนต์ที่มีความสูงได้เพิ่มมากขึ้น
-
เทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW)เทคโนโลยีจะส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนบนหน้าปัด หากพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า เมื่อเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป โดยเทคโนโลยีนี้สามารถตรวจจับได้ถึงรถคันที่สองที่อยู่ต่อจากคันหน้า
-
เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB)โดยระบบนี้จะทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ ซึ่งจะช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อชะลอความเร็ว และหยุดรถ เพื่อลดความรุนแรง หรือ ลดความสียหายที่จะเกิดจากอุบัติเหตุ
-
เทคโนโลยีเตือนรถในมุมอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW)เมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา ไฟเตือนที่อยู่บริเวณกระจกมองข้างจะสว่างขึ้น หากมีการเปิดไฟเลี้ยว ไฟเตือนจะกะพริบ พร้อมกับมีเสียงเตือนผู้ขับเมื่อสัญญาณไฟเลี้ยวถูกเปิด ให้ผู้ขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้น เมื่อต้องการเปลี่ยนช่องทางขับขี่
-
เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)ระบบจะเตือนระหว่างเข้าเกียร์ถอยหลัง เมื่อตรวจพบรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาทางด้านหลังทั้งซ้ายและขวา ระบบจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมไฟกระพริบเตือนในด้านเดียวกันกับที่มีรถเคลื่อนที่เข้ามา
-
เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning – LDW)เมื่อตรวจพบว่ารถกำลังออกนอกช่องทางขับขี่ และเสี่ยงต่ออุบัติเหตุจากด้านข้าง โดยที่ไม่ได้เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะส่งสัญญาณเสียงและไฟที่หน้าปัด เพื่อเตือนให้รู้ว่ารถกำลังออกนอกช่องทาง เพิ่มความมั่นใจ และเสริมปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
-
เทคโนโลยีเตือนผู้ขับขี่เมื่อรู้สึกถึงการขาดสมาธิหรือเหนื่อยล้า(Intelligent Driver Alertness – IDA)ระบบนี้จะส่งเสียงพร้อมข้อความเตือนบนหน้าจอ เพื่อให้ผู้ขับจอดพัก หากตรวจพบลักษณะการขับขี่ที่แสดงถึงการขาดสมาธิ หรือเหนื่อยล้า
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ช่วยให้ทุกการขับขี่มั่นใจได้ในความปลอดภัยแบบ Passive Safety อาทิ
-
เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) และ เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันHill Descent Control (HDC)
เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชันช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลขณะออกตัว ขณะที่เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันช่วยป้องกันไม่ให้รถไถลเมื่อขับลงทางลาดชันสูงโดยใช้กำลังเครื่องยนต์ช่วยหน่วงความเร็วโดยไม่ต้องเหยียบเบรกช่วย
-
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control (TCS) และ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัจฉริยะ Vehicle Dynamic Control (VDC)
TCS จะควบคุมการขับขี่โดยให้ล้อไม่หมุนฟรี มั่นใจได้แม้อยู่บนสภาพถนนที่ลื่นและควบคุมได้ยาก มาพร้อม VDC ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวของรถขณะหักหลบกะทันหัน สามารถหักเลี้ยวได้อย่างมั่นใจ ตอบสนองทุกการขับขี่อย่างฉับไว ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแม้ในสถานการณ์คับขัน
-
ระบบเบรก ABS, EBD และ B-LSD
นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ มาพร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (Anti-lock Braking System – ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (Electric Brake Force Distribution System – EBD) ระบบป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential (B-LSD) และไฟเบรกดวงที่สามพร้อมไฟ LED สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
-
ถุงลม SRS คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง เพื่อช่วยลดความรุนแรงที่เกิดจากการชนทั้งด้านหน้าและด้านข้างให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และ เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter Seatbelts) เข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า ELR แบบสามจุด ELR และสามารถดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ที่สามารถปรับระดับได้ตามขนาดร่างกายของผู้โดยสารแต่ละคน รวมถึงเข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหลัง ELR แบบสามจุดสามตำแหน่งที่นั่ง ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยด้วยจุดยึดเบาะที่นั่งเด็กแบบ ISOFIX เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารที่เป็นเด็ก
-
โครงสร้างนิรภัย (BODY REINFORCEMENT) ตัวถังดีไซน์แกร่งที่ให้ความปลอดภัยเป็นพิเศษ เอกสิทธิ์เฉพาะนิสสัน ที่สามารถรองรับการกระแทกรอบด้าน เพื่อปกป้องทุกชีวิตภายในห้องโดยสารด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก
สุดยอดสมรรถนะด้วยขุมพลัง 2.3L ทวินเทอร์โบ ที่แรง เต็มประสิทธิภาพ แต่ประหยัดมากยิ่งขึ้น
นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ พัฒนาจากประสบการณ์กว่า 60 ปี ด้านรถยนต์อเนกประสงค์ ของนิสสัน สำหรับประเทศไทย นิสสันเลือกใช้เครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร (Nm) ตั้งแต่ 1,500 รอบต่อนาที ที่ให้สมรรถนะสูง ประหยัดน้ำมัน และเนื่องจากการทำงานของเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบนี้มีมีแรงสั่นสะเทือนน้อยจึงช่วยลดเสียงรบกวนที่เข้ามาในห้องโดยสาร ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกสบายตลอดการเดินทาง เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ที่ทำให้การออกตัว เร่งแซง หรือการขับในเมืองเป็นไปอย่างราบรื่น แต่เต็มไปด้วยกำลังที่ให้ความมั่นใจในทุกเส้นทางแมนนวลโหมด (M mode) ยิ่งทำให้การขับขี่สนุกสนานมากกว่าเดิม นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ รองรับน้ำมันดีเซลทุกชนิดทั้ง B7, B10 และ B20 และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 20,000 กิโลเมตร***
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของนิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ทนทานพร้อมท้าทายทุกเส้นทาง
-
เทคโนโลยีขับเคลื่อนสี่ล้อ 4×4 (4WD) ที่ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนจากการขับขี่แบบสองล้อ หรือ two-wheel drive (2H) เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือ four-wheel drive ได้ทั้ง 4H และ 4L ผ่าน Rotor Switch ที่บริเวณแผงคอนโซลกลาง พร้อม ฟังก์ชัน shift-on-the-flyที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ขณะขับขี่ จาก 2H เป็น 4H ได้ทันทีขณะรถวิ่งไม่เกิน 100 กม./ชม. เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ขณะที่โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบความเร็วต่ำ low range four-wheel drive หรือ 4LO สำหรับการขับขี่บนพื้นที่ทุรกันดาร อาทิ ทราย โคลน ลุยน้ำ ปีนขึ้นที่สูงชัน หรือลงในเส้นทางลาดชัน มาพร้อมระบบ Electronic Locking Rear Differential (Diff-Lock) ช่วยกระจายกำลังไปยังล้อหลังทั้ง 2 ข้างเพื่อเสริมกำลังฉุดให้ขับออกจากหล่มหรือในสถานการณ์ที่ต้องการแรงบิดสูงในโหมด 4L ได้ง่ายขึ้น และระบบป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential (B-LSD) โดยระบบจะส่งแรงไปยังล้อที่ลื่นไถลให้การออกตัวที่ลื่น พร้อมกระจายแรงขับขี่ไปที่ล้อแต่ละข้างเมื่อขับขี่ในโหมด 4H
-
นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ เสริมยางกันกระแทกที่ติดตั้งระหว่างตัวถัง และแชสซีส์มากถึง 10 จุด ภายในห้องโดยสารจึงมีความเงียบและนุ่มนวลเหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ 5 ลิ้งค์ (5-Link) พร้อมคอยล์สปริง ลดการสะเทือนได้มาก และช่วยให้หน้ายางสัมผัสพื้นถนนเต็มที่ตลอดเวลา จึงให้การทรงตัวที่ดีไม่มีอาการโคลง ให้ความนุ่มนวลและนั่งสบายในทุกสภาพถนน ทั้งออนโรด และ ออฟโรด หรือแม้ในขณะเข้าโค้ง ขณะที่ระบบเบรกใหม่ ดิสก์เบรกหน้า และ หลัง ขนาดใหญ่พร้อมครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ ตอบสนองต่อการเบรกได้อย่างดีเยี่ยม มั่นใจแม้ขณะเบรกที่ความเร็วสูง หรือเบรกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
-
การขับรถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัวในเมืองจะเป็นเรื่องสนุก เพราะนิสสันเข้าใจถึงการใช้งานของลูกค้าจึงได้ปรับปรุงอัตราทดพวงมาลัยให้ฉับไว มีระยะการหมุนที่ลดลง ทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ทั้งในความเร็วต่ำ การเปลี่ยนช่องทาง หรือเข้าโค้ง
ขับเคลื่อนและเผยความเป็นตัวเอง ด้วยทางเลือกสีภายนอกและภายใน
นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ มีขนาดตัวถัง ยาว 4,890 มม. กว้าง 1,865 มม. และสูง 1,865 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม. ระยะความสูงใต้ท้องรถ 225มม. รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่:
-
2.3 E 2WD 7AT ราคา 1,199,000 บาท
-
2.3 VL 2WD 7AT ราคา 1,449,000 บาท
-
2.3 VL 4WD 7AT ราคา 1,499,000 บาท