รถจักรยานยนต์สายพันธุ์อังกฤษภายใต้แบรนด์ไทรอัมพ์ ได้นำเสนอความเป็นโรดสเตอร์ร่วมสมัยไม่เหมือนใครอีกครั้ง รวมถึงมีรูปแบบที่เรียบง่าย มินิมอล และเส้นสายที่ดูสะอาดตา อีกทั้งยังผสมผสาน DNA การออกแบบของไทรอัมพ์ไว้ด้วยรูปลักษณ์ที่สืบทอดมาจากรุ่นไอคอนนิคอย่าง สปีด ทริปเปิล (Speed Triple)
ไทรอัมพ์ ไทรเดนท์ 660 (Triumph Trident 660) ไม่เพียงได้รับการออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่ แต่ยังตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ ด้วยท่าทาง เสริมความมั่นใจขณะอยู่บนตัวรถ ด้วยเบาะนั่งมีความสูง 805 มม. เบาะนั่งถูกออกแบบมาตามความต้องการทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายด้วย อีกทั้งเพื่อเสริมสร้างสรีรศาสตร์และสไตล์ของรถจักยานยนต์ไปพร้อมกัน
แน่นอนว่าการออกแบบรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ ไทรเดนท์ 660 (Triumph Trident 660) มีความสามารถในการขับขี่ได้อย่างราบรื่นในทุกสภาพท้องถนน เพราะติดตั้งโช้คหัวกลับของ Showa ที่ให้ระยะยุบตัวของล้อหน้าที่ 120 มม. ในขณะที่ล้อหลังของรถจักรยานยนต์ ติดตั้งระบบกันสะเทือนหลังด้วยโช้คหลังของ Showa แบบ monoshock สามารถปรับพรีโหลด พร้อมลิงค์เกจ (Linkage) นอกจากนี้ ด้วยโหมดปรับพรีโหลดของระบบกันสะเทือนหลัง
ที่ให้ระยะยุบตัวล้อหลังที่ 133.5 มม. ทำให้รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ ไทรเดนท์ 660 (Triumph Trident 660) สามารถรองรับผู้ขี่ซ้อนท้ายได้ในขณะที่ยังคงรักษาการทรงตัวที่ยอดเยี่ยม ระบบเบรกเป็นของ Nissin แบบ 2 ลูกสูบที่ให้พลังในการหยุดรถอันยอดเยี่ยม มาพร้อมกับจานเบรกแบบคู่ขนาด 310 มม. ในด้านหน้า และระบบเบรก Nissin แบบลูกสูบเดียว พร้อมกับจานเบรกแบบเดี่ยวในด้านหลัง
ขุมกำลังยังคงเป็นสไตล์เฉพาะตัว กับเครื่องยนต์ 3 สูบ ให้แรงบิดสูงและต่อเนื่องตั้งแต่รอบต่ำ ให้พละกำลังสูงสุด 81 แรงม้า ที่ 10,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูง 64 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที มาพร้อมกับเทคโนโลยีชั้นนำ 3 อย่าง ได้แก่ โหมดการขับขี่ 2 โหมด ระบบควบคุมการยึดเกาะถนนแบบปรับได้
คันเร่งไฟฟ้า สำหรับโหมดการขับขี่บนถนน (Road) และขณะฝนตก (Rain) ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการควบคุมรถ และความปลอดภัยของผู้ขับขี่ ผ่านการปรับการตอบสนองคันเร่งไฟฟ้า และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนที่แม่นยำ นอกจากนี้พลังของเครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 660 ซีซี ยังถูกควบคุมโดยระบบควบคุมการยึดเกาะ แบบเปิด-ปิดได้ (Traction Control) ซึ่งรวมอยู่ในโหมดการขี่ทั้งสองแบบ และยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ผ่านเมนู ในหน้าจอ TFT นอกจากนี้ยังมีระบบเบรก Nissin และ ABS ที่ทำงานควบคู่กันสามารถทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น
นอกจากนี้ความร่วมสมัยอีกอย่างคือหน้าจอเรือนไมล์รูปแบบใหม่ ด้วยการแสดงผลที่ดูสะอาดตาผ่านหน้าจอแสดงผล TFT แบบสี มาพร้อมกับจอ LCD ‘white-on-black’ เมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม My Triumph Connectivity หน้าจอดังกล่าวสามารถนำทางแบบ turn-by-turn พร้อมความสามารถควบคุมกล้อง GoPro การเชื่อมต่อโทรศัพท์ และเล่นเพลงผ่านบลูทูธได้ง่ายดายเพียงแค่ควบคุมผ่านสวิทช์คิวบ์ที่แฮนด์รถ ราคาเริ่มต้นที่ 3.09 แสนบาท