สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ที่ปรับจูนโดยทีมวิศวกรจาก Stellantis พร้อมเทคโนโลยี Cell-To-Chassis 2.0
-
การออกแบบสไตล์ European Design และเตรียมความพร้อมเข้าสู่ EURO NCAP ระดับ 5 ดาว
-
ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า PRE Booking จำนวน 1,000 สิทธิ์ รับส่วนลดทันที 10,000 บาท

Leapmotor Thailand ประกาศความพร้อมเดินหน้าบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า กลุ่ม C-Segment ในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด Leapmotor B10 ทั้ง 3 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น Life, Style และ Design มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 56.2 kWh และขนาด 67.1 kWh ระยะทางในการขับขี่ 442 km. และ 516 km. ตามมาตรฐาน NEDC สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ที่ปรับจูนโดยทีมวิศวกรของ Stellantis และเทคโนโลยี Cell-To-Chassis 2.0 และระบบปฏิบัติการ LEAP3.5 รองรับ Apple Carplay และ Android Auto และการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ OTA ใหม่ล่าสุด
สำหรับรายละเอียดข้อมูลรถ Leapmotor B10
สมรรถนะเหนือระดับ (Performance)
-
ขนาดตัวถัง: ยาว 4,515 มม., กว้าง 1,885 มม., สูง 1,655 มม., ระยะฐานล้อ 2,735 มม.
-
น้ำหนักรถ: 1,780 กก. (รุ่น Life) / 1,845 กก. (รุ่น Style, Design)
-
กำลังมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ที่ 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 240 นิวตัน/เมตร
-
อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ภายใน 8 วินาที
-
ทำความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม.
-
ขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ
-
รุ่น Life ขนาดแบตเตอรี่ 2 kWh ระยะทาง 442 กม. (NEDC)
-
รุ่น Style & Design ขนาดแบตเตอรี่ 1 kWh ระยะทาง 516 กม. (NEDC)
-
รองรับการชาร์จเร็ว DC สูงสุด 168 kW / จาก 30% – 80% ในเวลาเพียง 20 นาที
ดีไซน์และความสะดวกสบาย (Design & Comfortable)
ตัวรถออกแบบทันสมัย ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ห้องโดยสารรองรับผู้โดยสาร 5 ที่นั่ง พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ 420 ลิตร และแบบพับเบาะสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ถึง 1,300 ลิตร
-
รุ่น Life / รุ่น Style: เบาะเป็นผ้า ฝั่งคนขับปรับมือ 6 ทิศทาง ฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับมือ 4 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชันพื้นฐานครบครัน
-
รุ่น Design: เบาะหนังสังเคราะห์ ได้รับมาตรฐาน OEKO-TEX Certification, เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ส่วนเบาะคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง ฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะคู่หน้ามีระบบระบายอากาศ, กระจกหลังแบบ Privacy Glass, กระจกมองข้างพับอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ (ADAS)
-
ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า 2, ด้านข้าง 2, ม่านนิรภัย 2 และถุงลมนิรภัยกลาง 1)
-
ระบบ ADAS 17 ฟังก์ชันขั้นสูง เช่น:
– ACC (Adaptive Cruise Control)
– LCC (Lane Centering Control)
– ISA (Intelligent Speed Assistance)
– LKA (Lane Keep Assist)
– ELKA (Emergency Lane Keeping Assist)
– FCW (Front Collision Warning)
– RCW (Rear Collision Warning)
– AEBS (Autonomous Emergency Braking System)
– BSD (Blind Spot Detection)
– DOW (Door Open Warning)
– LDW (Lane Departure Warning)
– HOD (Hands-Off Detection)
– RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
– RCTB (Rear Cross Traffic Braking)
– DDAW (Driver Drowsiness and Attention Warning)
– ADDW (Advanced Driver Distraction Warning)
– TJA (Traffic Jam Assist)
-
ระบบกล้องรอบคัน 360°
-
การกระจายน้ำหนักสมดุล 50:50
-
ระบบกันสะเทือนหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบมัลติลิงก์ ที่ได้รับการร่วมพัฒนากับทีม Stellantis Chassis Master

เทคโนโลยีและความบันเทิงภายในรถ
-
หน้าจอสัมผัสส่วนกลางขนาด 6 นิ้ว, หน้าจอผู้ขับขี่ขนาด 8.8 นิ้ว
-
รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto สั่งงานด้วยเสียง ระบบนำทางแบบเรียลไทม์
-
การเชื่อมต่อ 4G, WiFi Hotspot, ช่อง USB และแท่นชาร์จไร้สาย
-
ระบบเสียงพรีเมียม: 12 ลำโพง (รุ่น Design) / 6 ลำโพง (รุ่น Life, Style)
-
ฟังก์ชัน V2L (Vehicle-to-Load) สำหรับจ่ายไฟให้อุปกรณ์ภายนอก
-
หลังคากระจกพาโนรามาขนาด8 ตร.ม. พร้อมม่านไฟฟ้า (รุ่น Life, Style และ Design)
-
ไฟ Ambient Light 64 สี (รุ่น Design)
สีตัวถังและห้องโดยสาร
-
สีตัวถังภายนอก 7 สี:
– Morning Dew Purple
– Starry Night Blue
– Tundra Grey
– Lightning White
– Skyfall Grey
– Metallic Black
– Galaxy Silver
-
สีห้องโดยสาร:
– Dark Feather Black (Fabric) รุ่น Life และรุ่น Style
– Dark Feather Black ECO Leather รุ่น Design
– Bamboo Shadow Grey ECO Leather รุ่น Design
ราคาจำหน่ายในประเทศไทย
-
รุ่น Life ราคาขายอยู่ที่ 698,000 บาท
-
รุ่น Style ราคาขายอยู่ที่ 758,000 บาท
-
รุ่น Design ราคาขายอยู่ที่ 798,000 บาท