จากกรุงเทพไม่ไกลมุ่งหน้าสู่ดินแดนมรดกโลก อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ระยะทางประมาณสองร้อยกว่ากิโลเมตร ชมวัฒนธรรมขอม ซึ่งในเมืองศรีเทพยังพบทับหลังที่มีลักษณะเป็นสกุลช่างพิมาย พบภาพแกะสลักคนนุ่งผ้าทรงปีกนกแบบพิมาย รวมถึงเขาคลังนอกเป็นมหาสถูปในวัฒนธรรมทวารวดีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขุดสำรวจเสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2555
เราขับฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่สปอร์ตพรีเมียมอีกขั้น กับการออกแบบด้านหน้าใหม่ ที่มาพร้อมกระจังหน้าที่ยกระดับความสปอร์ตเต็มขั้นในรุ่น e:HEV RS ที่มาพร้อมกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ตดีไซน์ใหม่ ไฟท้าย Full LED ดีไซน์ใหม่ สีล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้วสีใหม่ ตลอดการเดินทางเราไม่เหนื่อยมากด้วยความนุ่มนวลของช่วงล่างและภายในห้องโดยสารที่สะดวกสบายจึงทำให้การเดินทางเป็นเรื่องง่าย

สำหรับเมืองโบราณศรีเทพมีอายุอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 8-18 เป็นเมืองที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งในสมัยทวารวดี มีการติดต่อรับคติความเชื่อทางศาสนาหลายศาสนาและนิกาย ทั้งพุทธศาสนาแบบเถรวาทและมหายาน รวมไปถึงศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ในเสาวระนิกาย (นับถือพระสุริยะ) ไวษณพนิกาย (นับถือพระวิษณุ) และไศวนิกาย (นับถือพระศิวะ)

มีการติดต่อสัมพันธ์กับวัฒนธรรมใกล้เคียงตั้งแต่วัฒนธรรมอินเดีย ขอม และทวารวดีจากแหล่งอื่น ๆ โดยยังหลงเหลือหลักฐานทางโบราณคดีและงานศิลปกรรม สามารถแสดงความเป็นศูนย์กลางของอารยธรรมและการค้า แสดงให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันของชุมชนที่ต่างศาสนาในระยะเวลาเดียวกัน
ซึ่งอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพแบ่งออกไปสองส่วนคือตัวเมืองและเขาคลังนอกที่เพิ่งฟื้นฟูเสร็จ เขาคลังนอกเป็นโบราณสถานที่ค้นพบมานานแล้วในหมู่โบราณสถานของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ แต่เพิ่งบูรณะแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2555 ลักษณะของเขาคลังนอกเป็นศาสนสถานขนาดใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 13–14 ในสมัยทวารวดี
สันนิษฐานว่าเดิมมีลักษณะเป็นสถูปขนาดใหญ่ที่สามารถขึ้นไปด้านบนได้ ปัจจุบันเหลือเพียงฐานขนาดใหญ่ ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ก่อด้วยศิลาแลง สภาพค่อนข้างสมบูรณ์ มีทางขึ้นทั้ง 4 ด้าน กว้างด้านละประมาณ 64 เมตร ความสูงจากฐานถึงยอด ประมาณ 20 เมตร แบ่งเป็น 2 ชั้นหลัก ๆ โดยแต่ละชั้นสูงประมาณ 5 เมตร[1] แต่ละทิศมีเจดีย์รายรอบเล็ก ๆ ซึ่งแสดงถึงความเชื่อเกี่ยวกับมณฑลจักรวาล และอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมของอินเดียตอนใต้และชวากลางคล้ายบรมพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย
รอบบริเวณเราขับ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อีเอชอีวี ใหม่ วนชมได้แต่ต้องจอดในจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนดเท่านั้น และห่างกันไม่ไกลก็เป็น ก็เป็นเมืองเก่าศรีเทพ ซึ่งแต่เดิมมีชื่อว่า “เมืองอภัยสาลี” หรือ “เมืองไพศาลี“ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงค้นพบเมื่อเสด็จไปตรวจราชการมณฑลเพชรบูรณ์
ครั้งทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เมื่อ พ.ศ. 2447–2448 และได้ทรงเรียกเมืองนี้เสียใหม่ว่า “เมืองศรีเทพ” ตามชื่อเมืองที่ปรากฏในทำเนียบเก่าบอกรายชื่อหัวเมืองในสมัยอยุธยาและต้นรัตนโกสินทร์ กรมศิลปากรจึงได้ใช้ชื่อเรียกเมืองโบราณที่สำรวจพบว่าเมืองศรีเทพ จนกว่าจะค้นพบหลักฐานเอกสารที่ยืนยันชื่อที่แท้จริงของเมืองโบราณแห่งนี้
หลวงวิจิตรวาทการ (วิจิตร วิจิตรวาทการ) อธิบดีกรมศิลปากรในขณะนั้นได้ขึ้นทะเบียนเมืองโบราณศรีเทพ เป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2478[17] และประกาศลงใน ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478 กระทั่งใน พ.ศ. 2527 เมืองโบราณศรีเทพได้รับการอนุรักษ์และพัฒนาเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ภายใต้การบริหารจัดการในรูปแบบอุทยานประวัติศาสตร์ โดยการกำกับดูแลของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ สำนักศิลปากรที่ 4 ลพบุรี กรมศิลปากร

ในอุทยานฯจะมี ปรางค์ศรีเทพ เป็นสถาปัตยกรรมแบบวัฒนธรรมขอมโบราณในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16-17 หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ลักษณะของปรางค์สร้างด้วยอิฐและศิลาแลง ฐานล่างก่อด้วยศิลาแลงเป็นฐานบัวลูกฟัก แบบเดียวกับสถาปัตยกรรมขอมทั่ว ๆ ไป เรือนธาตุก่อด้วยอิฐ ในการขุดค้นบริเวณนี้พบชิ้นส่วนทับหลังรูปลายสลักราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ซึ่งน่าจะเป็นการสร้างเพิ่มหลังจากโบราณสถานเขาคลังใน ต่อมาประมาณพุทธศตวรรษที่ 18 มีการพยายามจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใหม่แต่ไม่สำเร็จ โดยได้พบชิ้นส่วนทิ้งกระจัดกระจาย
รวมถึงยังมี เขาคลังใน ,สระแก้วสระขวัญ,ปรางค์สองพี่น้อง,และหลุมขุดค้นเป็นต้น ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมนั่งรถรางชมสาถานที่ต่างๆ พร้อมฟังอธิบายจากเจ้าหน้าที่ฯ
เราใช้เวลาอยู่ในนี้นานหลายชั่วโมงรับรู้ถึงอารยธรรมของเราที่มีมาตั้งแต่อดีต เรามีความเป็นมายาวนานและควรค่าแก่การรักษาไว้ให้ชนรุ่นหลังได้สัมผัสและศึกษา ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่พาเราเดินทางอีกครั้งเพื่อมุ่งหน้ากลับ








































