ดีไซน์เปลี่ยนไปดูเฉียบคมมากขึ้น อารมณ์การขับสปอร์ตยิ่งขึ้นช่วงล่างนิ่งและแน่น ความสะดวกสบายมีมาให้ครบ
ทันทีที่คุณเห็นหน้าตาใหม่ของเขาเกิดความรู้สึกอย่างไร หลายคนตั้งคำถามในใจ เพราะว่าครั้งนี้สิ่งที่เห็นคือความเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์ที่ค่อนข้างชัดเจน จากยังมีภาพคุณชายดูเหมือนว่าในครั้งนี้โตโยต้าตั้งใจให้โมเดลนี้ดูร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น โดยอิงจากตลาดโลกเป็นหลัก
แล้วที่สำคัญดีไซน์แบบนี้ก็จะยังใช้กับอีกหลายรุ่นเพื่อให้สอดคล้องกัน เรามาดูกันว่าในโฉมนี้เขามีอะไรน่าสนใจบ้างมีส่วนไหนที่ได้การกับปรับปรุง มาเริ่มกันที่ราคาค่าตัวของเขา โดยราคาทางการ All-new Toyota CAMRY 2025 (ราคาพิเศษช่วงแนะนำ)
-
รุ่น HEV Smart ราคา 1,475,000 บาท
-
รุ่น HEV Premium ราคา 1,639,000 บาท
-
รุ่น HEV Premium Luxury ราคา 1,809,000 บาท
ภายนอก All-new Toyota Camry มองจากด้านหน้าเราเห็นชัดเจนว่าเขามีความเฉียบคมมากยิ่งขึ้น โดยมีการออกแบบไฟหน้าเป็นรูปตัว C ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบรุ่นใหม่ๆ ดีไซน์ใช้ธีมการออกแบบ Energetic Beauty ด้านหน้าดีไซน์แบบ Hammerhead ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์
พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ไฟท้าย Full LED ดีไซน์ทันสมัย พร้อมล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว ให้ความรู้สึกสปอร์ต แต่ยังคงความหรูหรา โดยทุกรุ่นย่อยจะได้ไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมไฟส่องสว่าง LED เหมือนกันทั้งหมด มาพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และปุ่มปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำภายในรถ
ส่วนเส้นด้านข้างต่อเนื่องถึงด้านท้ายกับไฟท้ายที่เป็นแบบ LED เช่นกันผมว่าเขาดูลงตัวและสวยงาม ฝากระโปรงด้านท้ายจะมีลูกเล่นตรงที่ยกขอบท้ายขึ้นนิดหน่อยเพื่อย้ำถึงความสปอร์ตยิ่งขึ้น เสาซีลาดเอียงให้ดูคูเป้ ส่วนเสาเอเลือกจะปรับให้กรอบประตูลาดลงพร้อมตัดขอบด้วยโครเมี่ยมเพื่อให้เกิดมิติมากยิ่งขึ้น
ทุกรุ่นถูกติดตั้งระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, กระจกบังลมหน้าแบบ Acoustic Glass ลดเสียงรบกวน, กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ ส่วนรุ่น Premium ขึ้นมาจะได้หลังคา Panoramic Roof แบบเปิด-ปิดได้ พร้อมม่านไฟฟ้า ซึ่งตรงนี้ก็ถือว่ายังเป็นรถที่ผู้บริหารเลือกใช้ได้เหมือนเดิม แม้ภายนอกจากสปอร์ตขึ้นก็ตาม
ส่วนรุ่น Premium Luxury เป็นเพียงรุ่นย่อยเดียวที่จะได้กระจกมองข้างทำงานคู่กับเมมโมรี่ และระบบ Reverse Link ที่ช่วยปรับองศาขณะถอยหลัง
ดีไซน์ภายในใช้ธีมการออกแบบ Energetic Beauty เช่นเดียวกัน ห้องโดยสารออกแบบพิเศษ ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง กว้างขวาง สบายตา Panoramic Roof แบบเปิดได้ พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า บริเวณที่นั่งฝั่งผู้ขับ ถูกออกแบบให้มีลักษณะแบบ Cockpit ให้ความรู้สึกกระชับในขณะขับ วัสดุภายในคุณภาพสูง การออกแบบอย่างประณีต แม้จะดูเรียบง่ายแต่ว่าทันสมัย เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ Smooth Leather และหนังสังเคราะห์ โทนสีภายในให้เลือก 2 โทนสี คือ Black Interior และ Yellow Brown Interior พิเศษเฉพาะรุ่น HEV PREMIUM LUXURY สีเงิน Precious Metal และสีขาว Platinum White Pearl
แล้วในรุ่น HEV PREMIUM LUXURY ที่เราทดสอบจะมาพร้อมมาตรวัด และหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อม T-Connect, อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger, ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB, ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH, พวงมาลัยปรับไฟฟ้าพร้อมระบบความจำและเลื่อนอัตโนมัติขณะเข้า-ออกจากตัวรถ, เบาะนั่งหุ้มวัสดุหนังแท้ Smooth Leather และหนังสังเคราะห์, เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support แบบไฟฟ้าและ Seat Ventilator,
เบาะนั่งผู้ขับพร้อมระบบความจำ 2 ตำแหน่ง, เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งด้านข้างพนักพิง, เบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังปรับพนักพิงไฟฟ้า, แผงควบคุมระบบสัมผัสแบบดิจิทัล Capacitive Touch Controller, ม่านบังแดดกระจกหลังปรับไฟฟ้า, ม่านบังแดดประตูหลัง, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 3 โซน ปรับอิสระแยกซ้าย ขวา และหลัง, ลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง