ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มุ่งทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง แน่นอนหลายคนสงสัยว่าเขาจะยังอยู่หรือไม่

ทว่าผ่านมาถึงตอนนี้ถือเป็นการยืนยันแล้วว่าเขายังอยู่ในประเทศไทยและพร้อมทำตลาดต่อเนื่อง แล้วที่ผ่านมาเราทราบดีว่าค่าย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ชูเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหลัก แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องไม่ลืมว่ารถยนต์รุ่นอื่นของค่ายก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะ HAVAL Jolion HEV Sport ที่เรานำมาทดสอบกันในครั้งนี้

สำหรับ HAVAL Jolion HEV Sport ถือว่าเป็นรถอเนกประสงค์ที่น่าสนใจไม่น้อย ยิ่งเมื่อเขาได้ปรับโฉมครั้งนี้ด้วยหน้าตาที่คมเข้มดุดัน ทว่าราคาที่ลดลงดูเหมือนว่าออปชั่นบางอย่างก็หายไปด้วยเช่นกัน โดยมีการถอด ระบบนำทางผ่านดาวเทียม Navigation System รวมถึงยกเลิก ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS ซึ่งมี

ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า FCW

ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก AEBI

ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA

ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน LCK

ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD

ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง RCW

ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA

ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTB

ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง RCW

ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA

ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTB

ระบบช่วยเตือนการปิดประตู DOW

ระบบช่วยเตือนความเมื่อล้าขณะขับขี่ DFM

ภายอก หน้าตารอบคันดูเข้มเน้นสีดำรอบคัน เริ่มตั้งแต่ชุดกระจังหน้าที่ใช้สีดำเงา ระบบไฟหน้า Triple Projector Lens แบบ LED ชุดไฟ Daytime Running Light แบบ LED เช่นเดียวกันกับไฟเลี้ยวก็เป็น แบบ LED มีระบบไฟ Welcome Light รวมถึงระบบเปิด-ปิด ไฟหน้า แบบอัตโนมัติ ไฟท้าย LED

และไฟตัดหมอกหลัง LED กระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า เสาอากาศแบบครีบฉลาม Shark Finล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว (ลายเดียวกับรุ่น Ultra) ยาง ขนาด 225/55 R18 และขาดไม่ได้กับราวหลังคาสีดำ

ภายในห้องโดยสาร ก็ไม่ต่างจากภายนอกมากนักเพราะเขาใช้โทนสีดำเป็นหลัก แล้วตกแต่งด้วยวัสดุ สีเงิน ในรุ่นนี้ติดตั้งระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB ระบบ Auto Brake Hold เกียร์แบบ Electronic Shifter ที่ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลางที่เป็นแบบ 2 ชั้น พร้อมที่พักแขน และ ที่วางแก้วน้ำ มีปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ มาให้ พวงมาลัย Multi-Function ปรับได้สองระดับปรับน้ำหนักได้สามระดับ

เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60 : 40 เบาะนั่งด้านหลัง พร้อมที่วางแขน และ ที่วางแก้วน้ำ ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า และ ด้านหลัง กระจกหน้าต่างไฟฟ้า พร้อมระบบ One-Touch ฝั่งคนขับ ระบบป้องกันการหนีบ Protection Jam

ขณะเดียวกันในส่วนของมาตรวัด เขาได้มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ขนาด 7 นิ้ว อ่านง่ายชัดเจน รวมถึงยังมี ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone การเชื่อมต่อรถผ่านระบบ Application บนมือถือ ส่วนหน้าจอเครื่องเสียง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แต่ยังไม่ไร้สาย  มีระบบเชื่อมต่อ WiFi ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth และยังมีระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Command ระบบอัพเกรดระบบผ่านออนไลน์ FOTA ลำโพง 6 ตำแหน่ง

ขุมกำลังยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร 1,497 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 75.0 x 84.7 มิลลิเมตร พละกำลังสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 125 นิวตันเมตร ที่ 4,400 – 5,200 รอบ/นาที ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร พ่วงแบตเตอรี่ Lithium-ionเมื่อทำงานร่วมกัน

เครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ออปชั่นบางอย่าง ADAS หายไปแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหา สมรรถนะของเครื่องยนต์เน้นขับสนุกมากกว่าประหยัด แรงม้าสูงสุดรวมมอเตอร์ฯ 190 แรงม้า (PS) ที่ 6,000-6,400 รอบต่อนาที ,แรงบิดสูงสุดรวมมอเตอร์ฯ 375 นิวตันเมตร ที่ 4,500 – 5,000 รอบต่อนาที มีโหมดการขับให้เลือก 4 โหมด ปกติ,สปอร์ต,ประหยัด และ หิมะ

ระบบความปลอดภัยที่ให้มาผมว่ามันเพียงพอต่อการใช้งาน เช่นระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VSS ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และ ควบคุมการลื่นไถล TCS ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 SCM และ ระบบลดความเสี่ยงที่จะพลิกคว่ำ ARSเป็นต้นฯ

สรุปความรู้สึกหลังได้ทดสอบสิ่งที่ชอบคือในส่วนของการเลือกใช้โทนสีดำที่ภายนอกทั้งหมด กระจังหน้าเองก็มีความโฉบเฉี่ยวดูเข้มน่าดู ในห้องโดยสารเองก็มีความกว้างเพียงพอจะเดินทางท่องเที่ยวได้สบายพับเบาะแล้วยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระเหลือ น้ำหนักพวงมาลัยปรับเลือกได้สามระดับผมว่าเป็นสิ่งที่ดีเลือกได้ตามความเหมาะสมกับแต่ละคน

แต่เงื่อนไขคือต้องเข้าไปปรับในหน้าจอกลางเท่านั้นรวมถึงโหมดการขับขี่ด้วยเช่นกันสำหรับผมคิดว่าจะยุ่งยากสักหน่อยแต่ถ้าชินแล้วก็ไม่น่าเป็นปัญหา การตอบสนองของเครื่องยนต์ทำได้ดีขับสนุกโดยเฉพาะในโหมดสปอร์ตกดคันเร่งก็พร้อมทะยานไปข้างหน้าทันทีถ้าคุณอยู่ในโหมดนี้อย่าถามหาความประหยัดนะไม่มีให้คุณแน่นอน ในขณะเดียวกันอยากได้ความประหยัดควรเลือกใช้โหมดประหยัดแต่ความกระตือรือร้นก็จะหายไปด้วยเช่นกัน

สำหรับอัตราการประหยัดตัวเลขที่เราทำได้ 18.5 กม./ลิตร แต่ถ้าบอกว่าเป็นไฮบริดน่าจะประหยัดกว่านี้ ผมคิดว่าลักษณะของรถคือต้องการให้เป็นรถที่ขับสนุกมีมอเตอร์มาช่วยเสริมแรงเสียมากกว่า ถึงอย่างไรก็ตามมันก็ยังเป็นตัวเลขที่ยังสวยงาม ราคาค่าตัว Jolion HEV SPORT  769,000 บาท แต่ก็ยังมีโปรโมชั่นออกมาบ่อยๆต้องสอบถามตัวแทนจำหน่ายอีกครั้ง

ผมว่าคนที่ชอบความคล่องตัวขับสนุกบรรทุกสัมภาระสำหรับเดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัวขนาดเล็กผมว่าน่าจะเหมาะครับเพราะหลังคาก็ยังมีราวหลังคามาให้เพื่อติดแร็คหลังคาเพิ่มได้อีกเช่นกัน


ข้อมูลเทคนิค

รุ่นรถ HAVAL Jolion HEV Sport

แบบตัวถัง B-SUV

มิติ(กว้าง xยาว x สูง มม.) 1,841 x 4,472 x 1,619 มม.


เครื่องยนต์ เบนซิน4 สูบ DOCH

ความจุ 1.5 ลิตร

แรงม้าสูงสุดรวมมอเตอร์ฯ 190 แรงม้า (PS) ที่ 6,000-6,400 รอบต่อนาที

แรงบิดสูงสุดรวมมอเตอร์ฯ 375 นิวตันเมตร ที่ 4,500 – 5,000 รอบต่อนาที

แบตเตอร์รี่ชนิด ลิเธียม-ไอออน

ระบบส่งกำลังและเกียร์ E-CVT

ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร


ระบบช่วงล่าง

หน้า แมคเฟอร์สันสตรัทอิสระพร้อมเหล็กกันโคลง

หลัง ทอร์ชั่นบีม

พวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนียน เพาเวอร์ไฟฟ้า(EPS)


ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม. (โดยประมาณ)

ระบบขับเคลื่อน    2 ล้อหน้า


ขนาดล้อและยาง

ด้านหน้า 285/50 R18

ด้านหลัง 285/50 R18


ระบบเบรก

หน้า-หลัง ดิสก์เบรก พร้อมคีบระบายความร้อน

เว็บไซต์ www.gwm.co.th


ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่